posttoday

ชงพักราชการ "ผอ.ขนมจีนคลุกน้ำปลา" ผลสอบพบส่อผิดวินัยร้ายแรง

11 มิถุนายน 2561

ผลตรวจสอบข้อเท็จจริงพบ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ส่อเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง เสนอให้พักราชการไว้ก่อนจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

ผลตรวจสอบข้อเท็จจริงพบ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ส่อเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง เสนอให้พักราชการไว้ก่อนจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประทีป ทองด้วง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 2 ได้นำเอกสารสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ ถูกผู้ปกครองร้องเรียนทุจริตกรณีอาหารกลางวันเด็ก ส่งมอบให้นายชุมพร ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป

นายประทีป กล่าวว่า ได้สรุปผลการสืบสวนข้อจริงรายงานต่อนายบุญรัตน์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และถือว่าเป็นการสิ้นสุดกระบวนการที่อยู่ในความรับผิดชอบ หลังจากนี้การดำเนินการขั้นตอนต่อไปขึ้นอยู่กับศึกษาธิการจังหวัด

ส่วนนายสมเชาว์ ได้ยื่นหนังสือลากิจไปตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.หลังมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 2 และครบกำหนดการลา ในวันนี้ช่วงเช้านายสมเชาว์ ได้ขอยื่นลากิจต่ออีก 5 วัน และครบกำหนดในวันศุกร์ที่ 15 มิ.ย.นี้ ซึ่งได้อนุญาต เนื่องจากเป็นสิทธิที่สามารถทำได้

ด้าน นายชุมพล เปิดเผยว่า กระบวนการต่อไปตนและนิติกรสำนักงานฯ จะนำเอกสารมาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง เนื่องจากยังมีกรอบเวลาการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกอย่างน้อย 2 วัน เพราะคณะกรรมการฯ ได้ใช้เวลาทำงานไปเพียง 4 วันเท่านั้น และเบื้องต้นเท่าที่ได้มีการรายงานพบว่าเข้าข่ายความผิดวินัย และวินัยร้ายแรง ซึ่งหากเป็นสำนวนที่มีความผิดวินัยร้ายแรงอยู่ด้วยแล้วไม่จำเป็นต้องต้องกรรมการสอบสวนวินัยอีก ซึ่งจะขอเวลาตรวจสำนวน เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก่อนจะนำความเห็นรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัด

นายชุมพล กล่าวว่า คาดว่าอย่างช้าสุดจะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ พร้อมกับรายงานข้อเท็จจริงให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ที่จะต้องให้ข้าราชการที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือ พักราชการไว้ก่อนจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

"ขอให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจในกระบวนการรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริง และสำนวนการสอบสวนจะไม่สามารถเปลี่ยนหรือช่วยเหลือกันได้ ศึกษาธิการจังหวัดทำหน้าที่เหมือนพนักงานอัยการ ที่มีหน้าที่พิจารณาสำนวนฟ้องต่อศาล สำนวนว่ามาอย่างไรก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น โดยหน้าที่แล้วยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับนายสมเชาว์ เนื่องจากไม่ใช้อำนาจบังคับบัญชา แต่หลังจากเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยแล้วนายสมเชาว์ต้องมีหน้าที่มาให้ปากคำต่อไป " นายชุมพล กล่าว

ขณะที่ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปสุ่มตรวจการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นักเรียนที่โรงเรียนวัดเขาพระนิ่ม หมู่ 1 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ โดยไม่ได้แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบล่วงหน้าและเข้าไปที่โรงอาหารทันที ซึ่งนายสาธิต สร้างสกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับทราบจากครูและแม่ครัวรีบมาพบและนำตรวจ

ทั้งนี้ พบว่าได้มีการทำอาหารกับข้าวเป็นต้มจับฉ่ายหมู กับแกงมะเขือ และผลไม้เป็นฝรั่ง ใส่ถาดหลุมแจกนักเรียนที่เข้าแถวรับอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อย

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ต้องการตรวจสอบด้วยตัวเองว่าโรงเรียนแต่ละแห่งดำเนินการถูกต้องหรือไม่ ซึ่งพบว่าไม่มีการทุจริตและบางโรงเรียนที่มีพื้นที่ได้มีการปลูกผักสวนครัว นำมาทำอาหารกลางวันให้นักเรียน ซึ่งจะออกสุ่มตรวจไปเรื่อยๆโดยไม่แจ้งให้ทราบ