posttoday

"สาวตาบอด"สุดซึ้งใจลุงป่วยอัมพฤกษ์ให้ดวงตา เผยไม่คิดว่าจะได้พบคนใจประเสริฐเช่นนี้

07 มิถุนายน 2561

สาวตาบอดประกาศงดรับบริจาคแล้ว พร้อมแบ่งเงินมอบให้โรงพยาบาล สุดซึ้งคุณลุงใจประเสริฐยอมสละดวงตาให้

สาวตาบอดประกาศงดรับบริจาคแล้ว พร้อมแบ่งเงินมอบให้โรงพยาบาล สุดซึ้งคุณลุงใจประเสริฐยอมสละดวงตาให้

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการนำเสนอเรื่องราวชีวิตที่น่าหดหู่ใจของ น.ส.สุนิสา มุ่งรวยกลาง หรือน้องยุ้ย อายุ 26 ปี ชาวบ้านกลันทา ม.10 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่พิการตาบอดทั้งสองข้างมานานกว่า 7 ปี เพราะผลข้างเคียงจากการทำงานโรงงานหลอมเหล็ก และต้องเลี้ยงลูกชายวัย 1 ขวบ 3 เดือนตามลำพัง ปัจจุบันอาศัยเพิงเล็กๆที่ล้อมรอบและมุงด้วยสังกะสีเก่าผุพังเป็นที่อาศัย ปัจจุบันมีเพียงเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนเดือนละ 300 บาท ซื้อข้าว และอาหารกินประทังชีวิต ต้องอยู่อย่างยากลำบากอดมื้อกินมื้อ บางครั้งไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินจนคิดท้อถึงขั้นอยากจะฆ่าตัวตาย

ต่อมาได้มีผู้ทราบข่าวร่วมบริจาคเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้มี นายพายัพ รอดเมือง อายุ 59 ปี ชาวบ้านหนองหว้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ต้องนอนติดเตียงมานานกว่า 20 ปี ได้แจ้งความจำนงค์บริจาคดวงตาให้ 1 ข้าง เพื่อให้มีโอกาสกลับมามองเห็นอีกครั้งนั้น

ล่าสุด น.ส.สุนิสา ได้ประกาศของดรับบริจาคแล้ว หลังจากมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือแล้วกว่า 1,470,000 บาท พร้อมกล่าวว่า เงินที่ได้รับบริจาคเพียงพอสำหรับที่จะใช้เลี้ยงดูแม่ ลูกชาย และตัวเองแล้ว รวมทั้งยังมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้มีจิตศรัทธา นำข้าวสารและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมามอบช่วยเหลือที่บ้านด้วย และอยากให้ผู้มีจิตศรัทธาได้แบ่งปันความช่วยเหลือให้กับคนอื่น ที่ประสบชะตากรรมลำบากเหมือนกับตนเองด้วย

ส่วนเงินที่ได้รับบริจาคก็ตั้งใจว่าส่วนหนึ่งจะเก็บไว้สร้างบ้านให้สามารถกันแดดกันฝน และปลอดภัยกว่าเดิม เพราะปัจจุบันอาศัยอยู่ในเพิงสังกะสีเก่า ทั้งเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาลูก และใช้จ่ายในการดำรงชีวิต และตั้งใจว่าจะแบ่งปันเงินที่ได้รับบริจาคจำนวน 50,000 บาท มอบให้กับทาง โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์ หรือเวชภัณฑ์ยา สำหรับใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยคนอื่นด้วย เพราะที่ผ่านมาทาง โรงพยาบาลบุรีรัมย์ก็ให้ดูแลรักษาตนเองเป็นอย่างดีมาตลอด

ส่วนกรณีที่นายพายัพได้แจ้งความจำนงค์จะบริจาคดวงตาให้นั้น น.ส.สุนิสากล่าวว่า ชีวิตนี้ไม่คาดคิดว่าจะมีคนที่จิตใจประเสริฐยอมสละดวงตาของตัวเอง ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ทั้งที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้อง หรือรู้จักกันเลย ก็รู้สึกตื้นตันใจและทำให้ตนเองมีความหวังที่จะสู้เพื่อแม่และลูกต่อไป และแม้ว่าสุดท้ายแล้วเซลดวงตาจะไม่สามารถเข้ากันได้ หรือในทางระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้ จะทำให้ตนเองไม่สามารถเปลี่ยนดวงตา และกลับมามองเห็นได้อีกตามที่หวังไว้ ก็ไม่รู้สึกเสียใจ แต่กลับดีใจที่ได้รับรู้ว่าในโลกใบนี้ยังมีคนใจบุญที่ยอมเสียสละดวงตาของตนเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่น แต่ก็จะไม่หมดหวังจะรอคอยปาฏิหาริย์โดยเชื่อว่าว่า สักวันจะได้กลับมามองเห็น อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ก็จะไปฝึกอาชีพสำหรับคนพิการที่บกพร่องทางสายตา เพื่อให้สามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองและลูกได้โดยไม่เป็นภาระคนอื่น

น.ส.สุนิสายังได้กราบขอบคุณผู้ใจบุญ หน่วยงานราชการ สื่อมวลชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือตนเองได้หลุดพ้นจากชะตากรรมและมีกำลังใจจะต่อสู้ชีวิตต่อไป