posttoday

ผู้จัดการโครงการบ้านอยู่สบายแจงไม่ได้เพิกเฉยคดีลูกบ้านถูกยกเค้า

01 มิถุนายน 2561

นครปฐม-ผู้จัดการโครงการบ้านอยู่สบายยันไม่ได้ละเลยดูแลลูกบ้านหลังโจรบุกลักทรัพย์นักธุรกิจเครื่องสำอางมูลค่ากว่า10ล้านบาท ขณะผกก.เมืองนครปฐมเผยยังไม่พบเบาะแสทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรม

นครปฐม-ผู้จัดการโครงการบ้านอยู่สบายยันไม่ได้ละเลยดูแลลูกบ้านหลังโจรบุกลักทรัพย์นักธุรกิจเครื่องสำอางมูลค่ากว่า10ล้านบาท ขณะผกก.เมืองนครปฐมเผยยังไม่พบเบาะแสทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรม

กรณีน.ส.ภาปณัฐ สุขอนันต์ และ นายเจษฎา หาริแสง นักธุรกิจเครื่องสำอาง เจ้าของบ้านในโครงการบ้านอยู่สบาย 8 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง นครปฐม ออกมาเปิดเผยกรณีที่ถูกบุคคลภายนอกเข้าไปลักทรัพย์สินมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พร้อมกล่าวหาทางโครงการว่า บกพร่องต่อการดูแลและรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหาเบาะแสติดตามตัวคนร้าย และขึ้นป้ายประท้วงทางโครงการด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสมและเผยแพร่ทางโซเชียล

นายวิชัย ไทยอ่อน ผู้จัดการโครงการบ้านอยู่สบาย 8 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง นครปฐม ชี้แจงว่าไม่ได้ละเลยการดูแลความปลอดภัยลูกบ้าน หลังเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ม.ค.61 ตัวแทนโครงการฯ ลงพื้นที่รับทราบปัญหา และวันต่อมา ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพิสูจน์หลักฐาน และตั้งรางวัลนำจับให้กับผู้ให้เบาะแสคนร้าย เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

นอกจากนี้โครงการฯ ยังได้เพิ่มมาตรการปลอดภัยขั้นสูงสุดเป็นการเร่งด่วน ทั้งการเพิ่มจุดตรวจ และรถสายตรวจในหมู่บ้าน เพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างตามแนวรั้ว ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมจาก 10 จุด เป็น 16 จุด และเพิ่มความสูงของแนวรั้ว พร้อมขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจในพื้นที่โครงการเป็นระยะๆทำให้ไม่พบเหตุการณ์โจรกรรมเกิดขึ้นในหมู่บ้านอีก

ด้านนายพล ไทยอ่อน ที่ปรึกษาโครงการบ้านอยู่สบาย 8 กล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการประสานกับลูกบ้านที่ได้รับความเสียหาย และรับเรื่องร้องเรียนไปแก้ไขโดยเฉพาะการจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยรายใหม่ อย่างไรก็ตามทางโครงการฯเข้าใจในความทุกข์ร้อนของลูกบ้าน และความไม่พอใจหลังบ้านพักถูกลักทรัพย์ แต่ทางโครงการยืนยันว่าเราไม่ได้ละเลยความรับผิดชอบ แต่สิ่งที่ลูกบ้านขึ้นป้ายด้วยข้อความไม่เหมาะสม สร้างความเสียหายกับโครงการ ที่ผ่านมาเราเจรจาหาทางออก แต่ลูกบ้านก็ยังไม่หยุด เราจึงทำข้อตกลงร่วมกันถึงการห้ามกระทำเรื่องดังกล่าวอีก แต่ก็ยังพบการกระทำเช่นเดิม ตรงนี้ถือว่าทำให้โครงการเสียหาย

นายพล กล่าวด้วยว่าสำหรับประเด็นที่ลูกบ้านไปร้องเรียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จ.นครปฐม และทางสคบ.เรียกผู้แทนโครงการไปชี้แจง เพื่อทำการเจรจาไกล่เกลี่ย ทางเราให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยไปชี้แจงและบันทึกข้อตกลงจนเป็นที่พอใจของ ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทางลูกบ้านยังไปร้องต่อ สคบ. เป็นครังที่ 3 ซึ่งตรงนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนประเด็นของมูลค่าทรัพย์สินที่สูญหายของลูกบ้านยังไม่มีรายการหรือเอกสารยืนยันว่า สิ่งที่หายไปมีกี่รายการหรือมูลค่าเท่าใด

ส่วนของความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมือง นครปฐม กล่าวว่า คดียังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ผลการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่เก็บได้จากบ้านที่เกิดเหตุไม่ตรงกับข้อมูลอาชญากร ส่วนเบาะแสอื่นๆ เช่น การนำภาพถ่ายภาพพระเครื่อง และทองรูปพรรณ ไปยังร้านค้า และโรงรับจำนำในพื้นที่ แต่ยังไม่พบว่ามีใครนำสิ่งของที่ถูกโจรกรรมมาติดต่อขายหรือจำนำแต่ยังรอเบาะแสอื่นที่เกี่ยวข้อง