ผู้ช่วยศอ.บต.เยี่ยมสถานกักขังช่วยเด็กชาวโรฮิงญา

สงขลา-ผู้ช่วยศอ.บต.เยี่ยมห้องกักตรวจคนเข้าเมืองด่านสะเดารับฟังสภาพปัญหาชาวโรฮิงญา ช่วยเหลือเด็กออกจากสถานกักขังตามหลักสิทธิมนุษยชน

เมื่อวันที่29 พ.ค.61 นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชาย (ศอ.บต.) นางรอซิดะห์ ปูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารงานยุติธรรม ศอ.บต. เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สงขลา และ จนท.UNSCR ได้ตรวจเยี่ยมและรับฟังสภาพปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองที่มีสถานะ ผู้ลี้ภัย ชาวโรฮิงญา ณ ห้องกักตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา โดยมี พ.ต.อ.ชูณรงค์ ยิ่งยงดำรงกุล ผกก.ตม.จว.สงขลา ให้การต้อนรับและบรรยายสถานการณ์

นางกนกรัตน์ กล่าวว่า กรณีโรฮิงญาที่หลบหนีเข้าเมือง ไม่เข้าข่ายว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จะถูกควบคุมตัวตาม พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง และจะถูกควบคุมในห้องกักของตม.เพื่อผลักดันส่งกลับประเทศต้นทาง มีโรฮิงญาบางครอบครัวที่เดินทางมาพร้อมกับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งจะถูกควบคุมตัวพร้อมกับผู้ปกครองในฐานะหลบหนีเข้าเมือง เช่น ครอบครัวของนายมูบารซะ เดินทางพร้อมภรรยาและบุตรชายอายุ 3 ปี เมื่อปี 2558 ซึ่งพันธกรณีระหว่างประเทศ และอนุสัญญาสิทธิเด็ก เด็กทุกคนจะต้องได้รับการปกป้อง คุ้มครองดูแล โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติตามเชื้อชาติ หลายฝ่ายได้ความพยายามที่จะนำเด็กออกจากห้องกัก เพื่อเด็กจะได้รับการดูแลตามวัย และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อพัฒนา

“จากข้อมูลพบว่ามีเด็กโรฮิงยาในห้องกักอีก จำนวน 4 คน เป็นเด็กหญิง 2 คน และเด็กชาย 2 คน พัฒนาการเด็ก เป็นสิ่งที่สำคัญยึดประโยชน์สูงสุดของเด็ก แต่ด้วยกรอบกฏหมายภายในประเทศ ที่ยังไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจนทำให้เด็กบางคนต้องเติบโตในห้องกักโดยเฉพาะครอบครัวนายมูบาระ ขอลี้ภัยไปประเทศที่ 3 คือ อเมริกา แต่กระบวนการต้องใช้เวลานานหลายปี เราจึงได้มาสร้างความเข้าใจกัน เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือ โอกาสที่เด็กจะได้ออกไปอยู่ในสถานที่เหมาะสม ขอให้พ่อกับแม่ออกไปด้วย ซึ่งตามกฎหมายต้องมีผู้ประกันตัวพ่อแม่ออกไป ต้องหลักทรัพย์ประกันขั้นต่ำ 50,000 บ./คน ต้องหาบุคคลที่พร้อมประกัน ภายใต้เงื่อนไขว่าหากประกันแล้ว จะไม่มีการหลบหนี หากหลบหนีโอกาสที่จะไปอยู่อเมริกาจะหมดไป และ หากประกันแล้ว ต้องหาสถานที่เหมาะสม ที่ครอบครัวนี้ไปอยู่ และพร้อมมารายงานตัวตามที่ตกลงการประกันไว้ เช่น รายงานตัวเดือนละครั้งออกไปอยู่ ในความดูแลของหน่วยงานรัฐบาลไทย กรณีครอบครัวนี้ การที่จะแยกกับภรรยาไปกับลูกนั้น เป็นสิ่งที่ทั้งคู่ยอมรับไม่ได้" นางกนกรัตน์ กล่าว