posttoday

กอ.รมน.แจงอย่าหลงเชื่อคนปล่อยข่าวลือห้ามออกจากบ้านในพื้นที่ชายแดนใต้

27 พฤษภาคม 2561

กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แนะประชาชนอย่าหลงเชื่อหลังมีคนปล่อยข่าวลืออ้างจะมีเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แนะประชาชนอย่าหลงเชื่อหลังมีคนปล่อยข่าวลืออ้างจะมีเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีการปล่อยคลิบเสียงชายพูดเป็นภาษามลายูถิ่นทางสังคมออนไลน์ เนื้อหาระบุว่า ไม่ให้ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกนอกบ้านเพราะจะมีการก่อเหตุครั้งใหญ่ จนทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความกังวลนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ค. เวลา 14.00 น. พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค4ส่วนหน้า) พร้อม นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า ขอชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและหวาดกลัวกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้

1. จากภาพในคลิปที่ปรากฏ เป็นความพยายามปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างความสับสนและหวาดกลัวกับพี่น้องประชาชน สร้างความกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม ในห้วงเดือนรอมฎอน

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัย และอย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือดังกล่าว

ทั้งนี้ จะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าดำเนินการกับผู้ก่อเหตุทุกราย เช่นเดียวกับการก่อเหตุป่วนเมือง, ลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมมาได้แล้วหลายราย ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่เคยได้แสดงความรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของประชาชนมุ่งแต่ก่อเหตุเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น

2. มีกลุ่มบุคคลได้พยายามแอบอ้างบิดเบือนคำสอนของศาสนาถือเป็นพวกนอกศาสนาโดยเฉพาะ

ความพยายามปล่อยข่าวว่าจะก่อเหตุในวันดังกล่าวถือเป็นการจงใจขัดขวางการประกอบศาสนกิจของพี่น้องมุสลิมถือเป็นคนบาปที่จะต้องถูกลงโทษ จากคำยืนยันของคณะผู้แทนองค์การความร่วมมืออิสลาม ได้กล่าวไว้ว่าปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้เกิดจากกความขัดแย้งทางศาสนาแต่เกิดจากกลุ่มคนที่บิดเบือนหลักคำสอนและไม่เคารพกฎหมาย

จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ใส่ใจและหวาดกลัวกับการปล่อยข่าวลือดังกล่าว ขอให้มุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอนตามหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง และร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน