posttoday

ศาลฎีกาตัดสินให้วัดพนัญเชิงฯไม่มีสิทธิในที่ดินสุสานสาธารณะหลังฟ้องยึดคืน

17 พฤษภาคม 2561

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา ให้วัดพนัญเชิงวรวิหารไม่มีสิทธิในที่ดินสุสานสาธารณะ หลังฟ้องร้องยึดคืนจากมูลนิธิ เซียง เต๊ก ตึ้ง และให้ขุดศพออก

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา ให้วัดพนัญเชิงวรวิหารไม่มีสิทธิในที่ดินสุสานสาธารณะ หลังฟ้องร้องยึดคืนจากมูลนิธิ เซียง เต๊ก ตึ้ง และให้ขุดศพออก

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายวินัย อัศวราชันย์ ประธานมูลนิธิ เซียง เต๊ก ตึ้ง พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ 953/2561 ระหว่างโจทก์คือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร กับ จำเลย คือ มูลนิธิฯ ในคดีที่ทางวัดต้องการยึดที่ดิน 14 ไร่ ทางทิศตะวันออกฝั่งตรงข้ามถนนกับวัด เขตตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธา ซึ่งเป็นสุสานคนจีนของมูลนิธิ ฯ กลับไปเป็นของวัดและให้ทางมูลนิธิและลูกหลานชาวจีน ขุดศพออกจากสุสานทั้งหมด ประกอบด้วย ศพมีญาติเป็นหลุมศพ 1,600 หลุมศพ และศพไม่มีญาติในหลุมรวม 2,000 ศพ

เรื่องดังกล่าวมีปัญหาข้อขัดแย้งมานานกว่าสิบปี จนกระทั่งปี 2556 มีการฟ้องร้องเป็นคดีถึงศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่า วัดพนัญเชิงฯ ไม่มีสิทธิ์ที่จะฟ้องและเรียกที่ดินคืน เพราะว่าสุสานได้ดำเนินการโดยมูลนิธิ ฯ มาเป็นเวลา 65 ปีแล้ว ด้วยเจตนารมณ์ของเจ้าอาวาสในสมันนั้น โดยมีการเช่าที่ดิน และที่ผ่านมามูลนิธิ ฯ ได้บริหารงานในรูปคณะกรรมการฯ มาโดยตลอด โดยวัดพนัญเชิงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหาร จนมีการซื้อที่ดินข้างเคียงเพิ่มอีก 4 ไร่ ใช้เป็นสุสาน

ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และมาวันนี้ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษายืน ตามศาลอุทธรณ์ ถือเป็นการปิดฉากสรุปว่า วัดพนัญเชิง ฯ ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว รวมถึงไม่มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการที่ดินแห่งนี้

"ทีมทนายความของมูลนิธิ ฯ ต่อสู้คดีในประเด็นที่ว่าสุสานแห่งนี้ เป็นสุสานสาธารณะ บริหารงานอย่างถูกต้อง โดยมูลนิธิ ฯ มาโดยตลอด ซึ่งหลังจากชนะคดีแล้ว จะมีการเรียกประชุมกรรมการ ฯ และลูกหลานศพที่ฝังอยู่ทั้งหมด มาประชุมอีกครั้ง ว่าจะลงมติดำเนินการอย่างไรต่อไปในที่ดิน แต่ชัดเจนว่าพวกเราจะคงสภาพ ที่ดินแห่งนี้ทั้งหมด เป็นสุสานสาธารณะตลอดไป" นายวินัยกล่าว