ประธานมูลนิธิพระคชบาลจี้กรมอุทยานฯหาทางหยุดฆ่าช้างป่า

พระนครศรีอยุธยา-ประธานมูลนิธิพระคชบาลชี้ช้างป่าถูกฆ่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดจี้กรมอุทยานฯหาทางยุติปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกินระหว่างคนกับสัตว์

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.61 นายลายทองเหรียญ มีพันธ์  ประธานมูลนิธิพระคชบาล และเจ้าของวังช้างอยุธยาแลเพนียด เปิดเผยว่า กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบช้างเพศผู้อายุเกือบ 10 ปี มีงายาว 30 เซนติเมตร ถูกฆ่าตายอยู่ในไร่สับปะรด ใกล้เทือกเขาตะนาวศรี ถือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดและไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อตรวจสอบกลับไปตั้งแต่ปี2554 ผ่านมา 7ปี มีช้างป่าถูกฆ่าตายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ตัว ขณะที่ในปี2561 ผ่านมา 5 เดือนมีช้างป่าถูกฆ่าตายไปแล้ว 2 ตัว
มั่นใจว่าจะมีเหตุการณ์นี้อีกเพราะขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกินและผืนป่าระหว่างคนกับช้าง

"ปัญหาที่พบฝ่ายชาวบ้านจะอ้างว่าช้างลงจากป่ามาบุกไร่ ส่วนฝ่ายอนุรักษ์จะบอกว่า คนไปบุกรุกป่าของช้างเอาที่ดินมาทำไร่ ตรงจุดนี้เถียงกันอย่างไรก็ไม่จบสิ้น เพราะว่าต่างฝ่ายอ้างในเหตุผลของตัวเองซึ่งช้างป่าที่ออกจากป่ามีหลายสาเหตุ เช่น ในป่าไม่มีอะไรกินจึงลงมากินพืชไร่แต่ช่วงฝนตกป่าไม่ได้แห้งแล้ง ช้างป่าลงมาแสดงว่าในป่าไม่ปกติทำให้เขาหากินในป่าไม่ได้จึงลงมาหากินพืชไร่"นายลายทองเหรียญ กล่าว

นอกจากนี้ อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า ช้างป่าที่ถูกฆ่าตาย ส่วนใหญ่จะเป็นตัวผู้อายุ 10-12 ปี  เพราะเป็นช่วงเวลาที่ช้างหนุ่มจะถูกขับไล่ออกจากฝูงตามธรรมชาติและคำว่าในป่าไม่ปกติมี 2 สาเหตุ สาเหตุแรก คือ คนเข้าไปรุกรานหรือล่าสัตว์ในป่า  ทำให้ช้างหนุ่มที่ถูกขับจากฝูง ออกมาอยู่เพียงลำพัง ง่ายต่อการถูกล่าโดยคน และสาเหตุที่ 2 ประกอบกับคือ  เมื่ออยู่ในป่าหากินไม่ได้เพราะโขลงช้างป่าที่คุมโดยช้างตัวเมียไม่ยอม จึงจำเป็นต้องลงมาอยู่ตามแนวป่าชายขอบและหากินในไร่ ท้ายที่สุดก็ถูกชาวไร่ยิงทิ้งดังนั้นจึงอยากให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งรัดคิดหาวิธีการ หรือจัดทำโครงการเพื่อให้ช้างป่ารวมถึงชาวบ้านที่เป็นชาวไร่ และเจ้าหน้าที่ที่กำกับดูแล  อยู่รวมกันได้ในพื้นที่เดียวกัน และเพื่อหยุดการฆ่าช้างป่าให้ได้โดยเร็วที่สุด