ครอบครัวเด็กหญิงเหยื่อพิษสุนัขบ้า เตือนสังคมอย่าชะล่าใจเมื่อถูกหมาแมวกัด-ข่วน

ครอบครัวเด็กหญิงวัย14ปี เหยื่อโรคพิษสุนัขบ้ารายล่าสุด ขอให้การเสียชีวิตของบุตรสาวเป็นอุทาหรณ์ไม่ควระล่าใจหากถูกหมาแมวกัดหรือข่วน

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้านพักใน ต.หูทำนบ  อ.ปะคำ  จ.บุรีรัมย์  ซึ่งเป็นบ้านเกิด ของ ด.ญ.ชลธาร  ช่วยแสง อายุ 14 ปี ผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้ารายที่ 6 ในปีนี้ ซึ่งได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเพื่อนบ้านเดินทางมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวของด.ญ.ชลธารอย่างต่อเนื่อง

นางสมยง ช่วยแสง อายุ 43 ปี มารดาของ ด.ญ.ชลธาร กล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียว  เพราะไม่คิดว่าลูกจะจากไปรวดเร็วขนาดนี้ โดยบุตรสาวถูกสุนัขกัด เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ขณะไปเต้นรำในงานบุญหมู่บ้านก็มีสุนัขวิ่งเข้ามางับที่มือลูกสาวแต่ไม่มีบาดแผลมีเพียงรอยข่วนเล็กน้อยเท่านั้น  ลูกสาวจึงบอกกับยายเพื่อนบ้านที่ไปเต้นรำด้วยกันว่าไม่เป็นไร และกลับมาบ้านลูกสาวก็ไม่ได้บอกคนในครอบครัวว่าถูกหมางับที่มือ จึงไม่ได้พาลูกสาวไปฉีดวัคซีน  จากนั้นลูกสาวก็ใช้ชีวิตเป็นปกติ 

กระทั่งวันที่ 15 มี.ค. บุตรสาวเป็นไข้ จึงต้มน้ำไห้อาบ ต่อมาวันที่ 16 มี.ค. บุตรสาวก็บอกอีกว่า แน่นหน้าอก จึงให้กินยาพาราเซตามอลเพราะคิดว่าไม่สบายธรรมดา  ซึ่งบุตรสาวไม่เคยมีโรคประจำตัวมาก่อน กระทั่งเวลาช่วงตี1 ลูกร้องเสียงดังบอกว่าเจ็บหน้าอกหายใจไม่ออก พอตี 5 ลูกเริ่มมีอาการคันตามตัวเหมือนเป็นลมพิษ จึงรีบพาลูกคลินิก และได้ฉีดยาลดไข้และขยายหลอดลม หลังจากนั้นอีก 3 ชั่วโมง อาการของลูกไม่ดีขึ้น จึงไปโรงพยาบาลแพทย์ให้พักรักษาตัวดูอาการที่โรงพยาบาล จากนั้นวันที่ 17 มี.ค.บุตรสาวได้เสียชีวิต ซึ่งเมื่อแพทย์แจ้งว่าเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าก็รู้สีกตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าแค่ถูกสุนัขงับมือเป็นรอยข่วนเพียงนิดเดียวจะถึงขั้นเสียชีวิต

"อยากให้กรณีของลูกสาวเป็นตัวอย่างแก่ผู้ที่เลี้ยงหมา หรือพ่อแม่ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป หากสัมผัสน้ำลาย ถูกหมา แมว กัดหรือข่วนไม่ควรจะชะล่าใจ ควรจะรีบล้างทำความสะอาด และรีบไปหาหมอเพื่อรับการฉีดวัคซีนทันที"นางสมยงกล่าว