ปรับแผนท่องเที่ยว 'หาดใหญ่' แบงก์ชาติมั่นใจปลายปีนี้ฟื้นตัว

โดย...อัสวิน ภฆวรรณ

แม้ช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีนักท่องเที่ยว ต่างชาติในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา กันอย่างมากมาย ยอดการเข้าพักโรงแรมไม่ต่ำกว่า 80% แต่ในช่วงปกติไม่มีเทศกาลนั้น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาหาดใหญ่ก็ยังไม่มากนัก ทำให้หลายฝ่ายมองหาโอกาสช่องทางที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาหาดใหญ่เพิ่มขึ้น

กมล สุทธิวรรณโนภาส กรรมการผู้จัดการโรงแรมไชน่าการ์เด้น อ.หาดใหญ่ สมาชิกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา มองว่า ภาวะธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา ยังประสบกับภาวะซบเซาที่ต่อเนื่องในช่วงปกติ ยกเว้นช่วงฤดูกาลโปรแกรมการท่องเที่ยว โดยแนวโน้มในปี 2561 น่าจะแรงกว่าปี 2560 ประเด็นสำคัญคือผลจากการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การจับรถบริการผู้โดยสารประเภทนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ตลอดจนถึง พ.ร.บ.ประกันอุบัติเหตุนักท่องเที่ยว ฯลฯ

"ธุรกิจการท่องเที่ยวเกิดภาวะซบเซา โดยเฉพาะตอนนี้โรงแรมจำนวนมากที่มีทุนระยะสั้น ส่วนทุนระยะยาวไม่ประสบปัญหา และในขณะเดียวกันโรงแรมจำนวนหนึ่งต่างมีนโยบายเออร์ลี่พนักงานโรงแรมออกเป็นระลอก"

กมล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ยังไม่มีการเลือกตั้งนายกสมาคม และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทำหนังสือถึงสมาชิกเพื่อหารือดำเนินการเลือกตั้ง คาดว่าทั้งหมดภายในระยะ 6 เดือนจะแล้วเสร็จ

"สำหรับผมจะเสนอตัวเป็นนายกสมาคม และพร้อมคณะทีมงานประมาณ 60 คน ที่เป็นผู้ประกอบการ นักวิชาการ จะทำการออกแบบธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เพื่อให้กลับฟื้นมาโดยเร็ว"

กมล บอกว่า สำหรับการออกแบบแนวทางแก้ไขปัญหาธุรกิจการ ท่องเที่ยว จ.สงขลา โดยร่วมกันระหว่าง ผู้ประกอบการ นักวิชาการ แล้วนำเสนอต่อ จ.สงขลา และทางกองทัพภาคที่ 4 โดยจะดำเนินการภายหลังจากการเลือกตั้งนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาแล้ว

วิทยา แซ่ลิ่ม อดีตผู้ก่อตั้ง สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา มองว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปกติเฉพาะ จ.สงขลา จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเข้ามาพักโรงแรมทั้งชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอกเต็มหมด จะมีเงินหมุนสะพัดไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท/เทศกาล แต่เทศกาลตรุษจีนปีนี้ประเมินได้ว่ามีประมาณ 80%

"ประเด็นเรื่องการอำนวยความสะดวก การซื้อ พ.ร.บ.การท่องเที่ยว เป็นต้น สำหรับ พ.ร.บ.การท่องเที่ยว ได้เป็นปัญหาระดับชาติ ไม่ใช่ระดับปัญหาท้องถิ่น"

ด้าน สิทธิชัย ลาภานุพัฒนกุลเจ้าของโรงแรมชัยคณาธานี ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า จ.พัทลุง มีผลกระทบด้วยจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียหดตัวลง เพราะชาวมาเลเซียมีจำนวนหนึ่งที่เข้ามาท่องเที่ยว ทั้งนี้เพราะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีการลงทุนทางด้านโรงแรมที่ขยายตัวเติบโตมาก ประกอบกับ ค่าเงินริงกิตมาเลเซียตกด้วย

สิทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับโรงแรม จ.พัทลุง ได้ขยายตัวเติบโตเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2559 จนถึง 2561 จำนวน 3 แห่ง บางแห่งลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท จำนวน 8 ชั้น นอกนั้นยังมีรีสอร์และแมนชั่นแต่ยังมีไม่ถึง 1 หมื่นห้อง

"ขอส่งสัญญาณสำหรับการลงทุนธุรกิจโรงแรม ต้องมีวิสัยทัศน์ ดูการตลาด เพราะ จ.พัทลุง เป็นจังหวัดเล็กและจะเป็นเมืองผ่านโดยจะไปพักกันที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตรัง และนครศรีธรรมราช แต่ส่วนใหญ่ไปพักหาดใหญ่"

สิทธิชัย ยังกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันธุรกิจการท่องเที่ยวทางภาคใต้ตอนบนและฝั่งอันดามันยังมีทิศทาง ที่ดี เช่น จ.กระบี่ ภูเก็ต และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และเช่นเดียวกับ จ.ตรัง รอยต่อ จ.พัทลุง ก็ยังไม่มีผลกระทบแม้จะเผชิญกับภาวะซบเซาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สำหรับแนวโน้มในปี 2561 จากการวิเคราะห์เชิงวิชาการพบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น

สุรีรัตน์ ลัคนานิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ทางด้านภาวะธุรกิจการท่องเที่ยวทางภาคใต้ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 3.9% โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามันและอ่าวไทยซึ่งได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซียก็ได้ขยายตัวดีด้วยเช่นกัน

"แต่ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติในจังหวัดภาคใต้ชายแดนได้หดตัว เพราะจากการลดลงของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เป็นผลจากเงินริงกิตที่อ่อนค่า แต่ถึงอย่างไรจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในช่วงปลายปีนี้"

เสาหลักหนึ่งของเศรษฐกิจหาดใหญ่ หัวเมืองหลักของภาคใต้ตอนล่างนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากรายได้การท่องเที่ยว ดังนั้นภาวะเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันของทั้งประเทศไทยและประเทศมาเลเซียจึงยังเป็นปัจจัยหลักที่จะต้องจับตาว่า จะฉุดให้การท่องเที่ยวของชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางฟื้นตัวขึ้นได้จริงหรือไม่