หมวดจรูญเตรียมแจ้งความจับแผนข้อหาให้การเท็จ

กาญจนบุรี-ลุงจรูญยันซื้อเองกับมือหวย30ล.เตรียมแจ้งความนายแผนข้อหาให้การเท็จเผยเคยพบกันตอนพาเจ้าหน้าที่ธนาคารมาที่บ้านเมื่อธ.ค.60ทราบว่าถูกพักงานไปแล้ว

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 61 ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ ข้าราชการเกษียณตำรวจ และนางลาวัลย์ ภรรยา เปิดเผยว่าวันนี้พนักงานสอบสวนกองปราบได้นัดหมายที่จะมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ยังไม่ทราบว่าประเด็นอะไรและถือโอกาสนี้แจ้งความดำเนินคดีกับนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือนายแผน ข้อหาให้การเท็จ หลังจากที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเห็นร.ต.ท.จรูญ เก็บลอตเตอรี่งวดที่ถูกรางวัลที่1 จำนวน30ล้านบาทได้

ทั้งนี้ นายแผน ได้เดินทางมาที่บ้านตนจริง เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นผู้ขับรถพาเจ้าหน้าที่ธนาคารมาพบที่บ้านพัก เนื่องจากต้องการที่จะปรึกษาหารือเกี่ยวกับทนายความ เพราะขณะนั้นยังไม่มีทนายความส่วนตัวที่จะต่อสู้ในเรื่องของคดีความซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ได้ให้คำแนะนำต่างๆ ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักว่า นายแผน คือใคร แต่มาทราบภายหลังจากที่ นายแผน เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา นายแผน จะปิดบังใบหน้าเวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อ แต่พอเปิดหน้าให้เห็นชัดเจนจึงได้ทราบว่า นายแผน เคยมาที่บ้านซึ่งนายแผน ได้ลงจากรถและเข้าไปนั่งอยู่ภายในบ้าน ขณะที่ตนสนทนากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร นายแผน ก็ร่วมพูดคุยสนทนาด้วย

เจ้าหน้าที่ธนาคารระบุว่า นายแผน เป็นคนที่กว้างขวางรู้จักกับทนายความมีชื่อเสียงหลายคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารแนะนำ ทนายษิทราให้แต่ขณะนั้นงไม่สามารถติดต่อ ทนายษิทรา ได้ เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้แนะนำให้ นายแผน ไปหาทนายความมาให้โดยใช้เวลาพูดคุยกันนานประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ กระทั่งวันรุ่งขึ้น ทนายษิทรา ได้ติดต่อกลับมาจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารไปว่า ไม่ต้องให้ทนายความให้แล้ว เพราะทนายษิทรา ติดต่อกลับมาแล้วยืนยันไม่ได้รู้จักนายแผนเป็นการส่วนตัว และไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนายแผน

ร.ต.ท.จรูญ ยืนยันว่าไม่ได้เก็บลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 ดังกล่าวมาได้ ตามที่ นายแผน ให้การไว้แต่อย่างใดและซื้อลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวมากับมือ ขณะที่ทางทนายษิทรา ก็ให้แจ้งความกับ นายแผน ตามที่ตนต้องการ ส่วนตัวไม่อยากให้คดียืดเยื้อออกไป อยากให้จบเร็วๆ ส่วนเรื่องเงินรางวัลที่เหลืออยู่ที่ธนาคารประมาณ 24 ล้านบาท ก็คงจะปล่อยให้เป็นไปตามนั้นก่อน ยังไม่ได้ดำเนินการยื่นขอถอนอายัดแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้รีบใช้เงิน ส่วนตัวไม่ได้วิตกกังวลที่มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะเราอยู่แก่ใจตัวเองอยู่แล้วว่า เราทำอะไร เราผิด เราถูก เรารู้อยู่แล้ว ซึ่ง นายแผน เป็นเพียงพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่มาขับรถให้เจ้าหน้าที่ธนาคารและทราบว่าล่าสุดได้ถูกพักงานแล้ว

สำหรับ เจ๊เซี๊ยม ตนสนิทสนมกันมานานประมาณ 30 ปี จึงไม่เข้าใจความคิดของ เจ๊เซี๊ยม ว่าเขาคิดอย่างไร และจนถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้เจอและพูดคุยกับ เจ๊เซี๊ยม เลย ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงออกมา หลังจากรู้ว่าตัวเองถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 30 ล้านบาท ผ่านมาระยะหนึ่งก็ตัดสินใจโทรศัพท์ไปบอก เจ๊เซี๊ยม เองว่า ตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เพราะความสนิทสนมและไว้ใจ แต่จริงๆ แล้วตั้งใจว่า จะไม่บอกใครเลย ให้ค่อยๆ รู้กันเอง เพื่อจะได้ไม่มีญาติเยอะ

คงจะไม่ฝากบอกไปถึง เจ๊เซี๊ยม อีกแล้ว เพราะว่าต่างคนก็ต่างจิตใจกัน ส่วน เจ๊เซี๊ยม จะเข้าไปร่วมขบวนการหรือไม่นั้น ตรงนี้คงไม่ขอตอบดีกว่า เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดแบบไหน ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า ขณะที่ครูปรีชาโทรศัพท์ไปคุยกับ เจ๊เซี๊ยม ระหว่างนั้น ครูปรีชา ได้แอบอัดคลิปเสียงเอาไว้ แต่ เจ๊เซี๊ยม ไม่รู้เรื่องในเรื่องนี้ถึงแม้ว่าจะมีการอัดเสียงหรือไม่อัดเสียงก็ตาม เมื่อ เจ๊เซี๊ยม พูดออกมาแบบนั้นก็ทำให้ความรู้สึกของเราไม่ดีแล้ว อีกทั้งยังดึง นางสุรัตน์ เสน่หา หรือ ป้ารัตน์ และ นางศิริรัตน์ นิ่มเจริญ หรือ ป้าปุ๋ม เข้ามาโยงด้วยก็ไม่รู้เช่นกัน