posttoday

คุณยายถูกตีหัวชิงทองไม่หวังได้คืนขอแค่ตร.จับคนร้ายมาลงโทษ

07 มีนาคม 2561

นครพนม-คนร้ายสวมโม่งปิดบังหน้าทุบศีรษะยายวัย84ฉกทองและเงินสดกว่าครึ่งแสนบาทหนี ผู้เสียหายไม่หวังเอาคืนขอตำรวจแค่จับตัวมาลงโทษ

นครพนม-คนร้ายสวมโม่งปิดบังหน้าทุบศีรษะยายวัย84ฉกทองและเงินสดกว่าครึ่งแสนบาทหนี ผู้เสียหายไม่หวังเอาคืนขอตำรวจแค่จับตัวมาลงโทษ

นางมา เกษมสุข อายุ 84 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 6 ซอยเทศบาล 6/1 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม  ผู้เสียหายซึ่งถูกคนร้ายทุบศรีษะหมดสติแล้วชิงทองรูปพรรณและเงินสดรวม61,000บาท เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 2มี.ค.61 ขณะปั่นจักรยานสามล้มถีบออกกำลังกายรอไปทำบุญที่วัดบริเวณซอยหน้าบ้าน กระทั่งตำรวจได้สืบสวนนำผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 ราย  มาสอบสวนเก็บหลักฐาน และตรวจ ดีเอ็นเอ  เพื่อนำไปเทียบกับหลักฐาน ทางวิทยาศาสตร์ ที่เก็บได้ในจุดเกิดเหตุ และตามร่างกายผู้เสียหาย

นางมา เกษมสุข อายุ 84 ปี  ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทุกวัน จะตื่น ประมาณ ตี 4 –ตี 5  เพื่อนึ่งข้าว เตรียมอาหาร ไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน และจะปั่นจักรยานสามล้อ แบบคนพิการเพราะไม่สามารถเดินได้เนื่องจากป่วยเป็นโรคปวดเข่ามาหลายปี ต้องนั่งรถเข็น แต่ยังสามารถปั่นรถถีบได้และช่วยเหลือตัวเองได้ตลอด วันเกิดเหตุรอไปวัด เพื่อนบ้านยังไม่มีใครตื่น  จึงปั่นรถสามล้อถีบออกกำลังกาย วนไปมา จากนั้นมีชายร่างสูงใหญ่ สวมหมวกปิดใบหน้า เดินทางด้านหลัง และพยายามล้วงเอากระเป๋าเงินที่ซ่อนไว้ในชายเสื้อด้วยความตกใจไม่กล้าร้อง
จากนั้นรู้สึกว่าคนร้ายใช้ของแข็งทุบศีรษะจนหมดสติล่วงกับพื้นพอรู้สึกตัวขึ้นมา ทรัพย์สินที่สะสมไว้หลายปี ตามประสาคนแก่ ไม่ชอบเก็บไว้ที่บ้านกลัวหายไปไหนติดตัวตลอดหายไป  จึงช่วยตัวเองขึ้นรถเข้าบ้านเรียกลูกชาย พาไปหาหมอก่อนไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ

"ยอมรับว่าแปลกใจ ที่คนร้ายรู้ว่าดิฉันมีเงิน ขนาดลูกชาย ลูกสาวยังไม่รู้ เคยเห็นแต่ทองที่นำมาใส่เวลาไปงานบุญ ส่วนเงินสะสมไว้จากเงินผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท และได้เบี้ยคนพิการอีก 800 บาท รวมเดือนละ 1,600 บาท ลูกหลานให้ด้วย สะสมมา ไว้ทำบุญ  เชื่อว่าจะต้องเป็นคนในพื้นที่เคยเห็นมาแอบซุ่มดูก่อนลงมือ หลังเกิดเหตุทำใจแล้ว ไม่คิดจะได้คืน  ถือว่าทำบุญทำทาน คงเป็นหนี้เขาชาติที่แล้ว  ไม่กังวลใจ และไม่เครียด ไม่ตายหาใหม่ ทำบุญมากกว่านี้ยังเคยทำ แต่อยากให้ตำรวจจับมาลงโทษให้ได้ ไม่ให้ไปทำกับใครอีก" นางมากล่าว

ทั้งนี้ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์  ศรีจันทร์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม  ได้ระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ ตรวจสอบเก็บหลักฐาน สอบสวนพยานเพิ่มเติม เบื้องต้นได้มุ่งประเด็นผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ และรู้ความเคลื่อนไหวของยายผู้เสียหายมาก่อน  และมีการติดตามวางแผนก่อนก่อเหตุ  ซึ่งฉวยโอกาสที่ปลอดคน จนกระทั่งตำรวจได้มีการสืบสวน นำตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 ราย  มาสอบสวนเก็บหลักฐาน และตรวจ ดีเอ็นเอ  เพื่อนำไปเทียบกับหลักฐาน ทางวิทยาศาสตร์ ที่เก็บได้ในจุดเกิดเหตุ และตามร่างกายผู้เสียหาย  ซึ่งต้องรอผลการตรวจพิสูจน์