รพ.ม.นเรศวรเสียใจรักษาด.ญ.ปากเบี้ยวดับขอ1เดือนชันสูตรศพ

พิษณุโลก-รพ.ม.นเรศวรแถลงขอโทษและเสียใจหลังรับเด็กหญิง1ขวบ8เดือนปากเบี้ยวเข้ามารักษาแล้วเสียชีวิตขอ1เดือนชันสูตรศพหาสาเหตุการตายที่แท้จริง

เมื่อวันที่13ก.พ.61 เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมสำนักผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ผศ.นพ.จตุวิทย์ หอวรรณภากร ประธานคณะกรรมการไกล่เกลี่ยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยกรณีนายวิชัย  สามโพธิ์สีอายุ 38 ปี  เจ้าหน้าที่เปลโรงพยาบาลกำแพงเพชร   และนางรัตนา  สามโพธิ์สี อายุ 23 ปี   ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลกำแพงเพชร  อยู่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 19 ต.เทพนคร  อ.เมือง จ.กำแพงเพชร  บิดามารดาของด.ญ.พิชญาภรณ์  สามโพธิ์สี หรือ น้องออม ลูกสาววัย 1 ขวบ 8 เดือน  ที่เสียชีวิตหลังนำมารับการตรวจรักษาอาการปากเบี้ยวโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 9ก.พ.ว่า การเสียชีวิตของน้องออมอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ส่วนผลเสียชีวิตจากเลือดออกในปอดเป็นผลสุดท้ายที่ปรากฏก่อนการเสียชีวิต เราพิจารณาทุกข้อทุกประเด็นพร้อมทั้งนำเลือดส่งไปตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดใช้เวลาตรวจผลเลือดประมาณ 2 สัปดาห์  และจะนำมาวินิจฉัยร่วมกับผลชันสูตรศพที่ผลจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็จะทราบผลการเสียชีวิตที่แท้จริง

ผศ.นพ.จตุวิทย์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งให้เรื่องเงียบหาย หลังจากมีข้อสอบถามจากทางญาติเราได้มีการประชุมเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และเมื่อค่ำวานนี้(วันที่ 12 ก.พ.)ทางทีมผู้บริหาร คณะแพทย์เจ้าของไข้ได้เดินทางไปแสดงความเสียใจ ไปร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพ พร้อมแจ้งสิทธิการช่วยเหลือเยียวยาตามนโยบาย สปสช.มาตรา 41 ยอดวงเงินเยียวยาไม่เกิน 4 แสนบาท ทำควบคู่ไปพร้อมกับเงินเยียวยาคณะแพทย์ รพ.ม.นเรศวรที่พิจารณาให้เต็มที่ตามความเหมาะสม  ซึ่งผลการพุดคุยทางแม่น้องออมยังอยู่ในอากาศโศกเศร้าเสียใจ ซึ่งในวันนี้จะมีการทำความเข้าใจเพื่อหาทางออกเป็นกระบวนการที่ทางโรงพยาบาลดำเนินการแล้ว

ส่วนกรณีโรค ไม่ขอตอบเป็นความลับของผู้ป่วย  ส่วนเรื่องการวางยาสลบ เป็นเรื่องที่ทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ การดมยาสลบเพื่อทำให้คนไข้อยู่นิ่งในการ ทำ MRI  ให้ภาพออกมาชัดเจน เด็กเล็กจำเป็นต้องใช้ การวางยามีการคำนวณปริมาณยา เท่าที่ตรวจสอบยังไม่พบความผิดปกติในการรักษา ทุกอย่างอยู่ในมาตรฐานการรักษา  เพราะก่อนทำการรักษาทางแพทย์ได้ใช้ข้อมูล บอกข้อดีข้อเสีย ก่อนให้ญาติเซ็นต์ยินยอมให้ดำเนินการรักษา เราดำเนินการรักษาโรคเป็นช่วงๆ เราตัดสินใจตรวจ เพราะการตรวจอาจเปลี่ยนแปลงการรักษา ถ้าปล่อยนานอาจเกิดผลเสียมากกว่า ซึ่งผลการตรวจแพทย์ต้องชั่งใจก่อนทำการรักษาเพื่อให้คนไข้หายจากโรค

ด้าน นางรัตนา สามโพธิ์สี   มารดา  ด.ญ.พิชญาภรณ์  สามโพธิ์สี กล่าวว่าทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร มีรองคณบดี คณะแพทย์ประมาณ 10 คนได้มาร่วมงานศพแสดงความรับผิดชอบ แสดงความเสียใจ พร้อมให้การเยียวยา  ชี้แจงข้อสงสัยของพ่อแม่ แต่สาเหตุก็ยังไม่เคลียร์บอกว่ากำลังหาสาเหตุการเสียชีวิตและรอผลตรวจชันสูตร  ส่วนที่บอกไม่อธิบายสาเหตุที่น้องเสียชีวิตในช่วงนั้น เป็นเพราะทางหมอก็รู้สึกเสียใจ ทำใจไม่ได้เหมือนกัน พร้อมกับขอโทษ ซึ่งเราก็ให้อภัย การเดินทางมาของคณะผู้บริหารทำให้ครอบครัวเรารู้สึกสบายใจรู้สึกพอใจมากขึ้น แม้ว่าการเดินทางมาจะช้าไปนิดแต่อย่างน้อยก็ยังได้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ และไม่มาสนใจเลย  ทำให้ครอบครัวเรารู้พอใจมากขึ้น ช่วงนี้ตนก็ยอมรับว่ายังรู้สึกเสียใจโศกเศร้าทำใจยังไม่ได้ที่สูญเสียลูก  ใครจะทำใจได้ลูกเราไปตรวจ วันไปตรวจอาการดีๆ ร่าเริง แม่ยังจับมือลูกจนลูกหลับหลังจากดมยาสลบ  เพิ่งปล่อยมือจากลูกไปไม่ถึง 15 นาที ก็มารู้ว่าลูกเสียชีวิตจากเราไปแล้ว ความรู้สึกคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมเสียใจทุกคน  คงต้องใช้เวลาในการทำใจจากการสูญเสียครั้งนี้