posttoday

เตือนภัยสังคม!หนุ่มอยากกู้เงินแสนเจอนักต้มตุ๋นสูญเงินนับหมื่น

10 กุมภาพันธ์ 2561

ฉะเชิงเทรา-หนุ่มโรงงานอยากู้สินเชื่อแบงก์แต่ไม่มีเวลาไปติดต่อเขอนักต้มตุ๋นอ้างเป็นนายหน้ารับจัดการขอสินเชื่อผ่านธนาคารกว่าจะรู้ตัวก็สูญเงิบไป8หมื่นบาท

ฉะเชิงเทรา-หนุ่มโรงงานอยากู้สินเชื่อแบงก์แต่ไม่มีเวลาไปติดต่อเขอนักต้มตุ๋นอ้างเป็นนายหน้ารับจัดการขอสินเชื่อผ่านธนาคารกว่าจะรู้ตัวก็สูญเงิบไป8หมื่นบาท
              
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.61 นายยุทธนา วรสิงห์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/46 ม.3 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และน.ส.ปรียาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายถูกอ้างว่าถูกนายศิริชัย สมัคคี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ม.2 ต.คลองพลู อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี อ้างเป็นผู้ประกอบธุรกิจทำเต็นท์รถยนต์มือสอง หรือ “ณัฏฐรถบ้าน” และเป็นนายหน้ารับจัดการแก้ไขปัญหาทางด้านการเงินให้แก่ผู้ที่กำลังเดือดร้อนต้องการเงินกู้ให้สามารถผ่านการพิจารณาปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้โดยง่าย โดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ร้อยละ 5 เปอร์เซ็นต์ก่อนล่วงหน้าจากยอดเงินกู้ทั้งหมดในอัตราแสนละ 5 พันบาท ซึ่งได้หลงเชื่อเพราะความที่เป็นคนพูดจาดีและดูมีความรู้ทางด้านสถาบันการเงินจนดูน่าเชื่อถือ จึงยินยอมดิ้นรนไปหาหยิบยืมเงินจากญาติและเพื่อนมาโอนจ่ายให้ไปก่อนเป็นเงิน 20,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาทางด้านเครดิต 10,000 บาท รวมถึงค่าปรับแต่งหมุนเวียนเงินหน้าบัญชีอีก 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 5 หมื่นบาท

แต่หลังจากที่ได้ส่งเอกสารไปแล้วนายณัฏฐระบุว่าน.ส.ปรียาดา ซึ่งเป็นแฟนของนายยุทธนา ติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร จากที่เคยไปเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ป้ายแดงแล้วนำไปคืนร้ายผู้จัดจำหน่ายนายณัฏฐ จึงได้เสนอวิธีการแก้ไขปัญหาว่าสามารถช่วยเหลือดำเนินการแก้ไขชื่อให้ถูกลบออกไปจากแบล็คลิสต์ได้คิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการปลดแบล็คลิสต์ เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท จึงยินยอมจ่ายและโอนเงินให้ไปอีก
 
ต่อมาไม่นาน นายณัฏฐ ได้ติดต่อกลับมาอีกว่าตัวเลขในบัญชีการเงินไม่สวยหากต้องการจะกู้ตามจำนวนที่ต้องการ คือ 3 แสนบาทต้องแก้ไขปรับแต่งก่อนโดยขอให้โอนเงินอีก20,000บาท และรับปากว่าจะโอนคืนให้ในภายหลังจะใช้เวลาในการดำเนินการ5 วันทำการแต่หลังจากเวลาผ่านไปจนครบกำหนดแล้วกลับยังไม่ได้เงินกู้ตามที่ได้ยื่นขอกู้ไว้ แถมยังติดต่อนายณัฏฐ ไม่ได้อีกเลย ทั้งทางไลน์และทางโทรศัพท์จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงจึงได้ค้นหาข้อมูลนายณัฏฐ ทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลก็พบว่ามีประวัติในการฉ้อโกงในหลายพื้นที่ทั้งในจ.ชลบุรี ระยอง และจ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับร.ต.อ.สมัย สุดาชาติ พนักงานสอบสวน สภ.แปลงยาวเมื่อวันที่ 2 ก.พ.61

ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวนี้เพราะอยากให้ทางผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง หรือผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ได้เข้ามาดำเนินการจัดการเอาผิดทางกฎหมายเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุหลอกลวงใครได้อีก โดยเฉพาะคนที่กำลังเดือนร้อนทางการเงินอยู่แล้ว ต้องมาเดือดร้อนซ้ำซาก เพราะถูกตุ๋นเงินหลอกลวงไปอีก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเหยื่อจะเป็นคนที่จะต้องทำมาหากิน หรือทำงานโรงงานที่ไม่มีเวลาที่จะไปติดต่อขอกู้เงินจากทางสถาบันการเงินด้วยตัวเอง จนต้องมาตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกัน ส่วนความคาดหวังที่จะได้เงินจำนวน 5 หมื่นบาทคืนคิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว

"อยากจะเตือนคนที่กำลังคิดที่จะขอกู้เงินจากนายณัฏฐคนนี้จะได้ไม่ต้องตกกลายเป็นเหยื่อของคนแบบนี้อีกเงินที่โอนไปให้แก่นายณัฏฐเป็นเงินที่ไปหยิบยืมมาจากทางญาติ และเพื่อนๆ มาอีกทอดหนึ่งจึงเดือดร้อนเป็นอย่างมากในขณะนี้เพราะทั้งโดนหลอกลวง ทั้งยังเป็นหนี้สินเพิ่ม"นายยุทธนา กล่าว