เปิดแผนพัฒนาสามเหลี่ยมทองคำ ใต้อาณาจักร ‘คิงส์ โรมัน’

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

เกือบ 10 ปีแล้ว ที่กาสิโน “คิงส์โรมัน” ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำโขง เมืองต้นเผิ้ง แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีรายงานข่าวว่า พื้นที่แห่งนี้ “จ้าว เหว่ย” นักธุรกิจจีนในนามของกลุ่มธุรกิจ “ดอกงิ้วคำ” ขอเช่าจากรัฐบาลลาวเป็นระยะเวลา 99 ปี เพื่อทำเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ หรือสามเหลี่ยมทองคำ

แต่เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา ก็ขึ้นบัญชีดำกิจการของบริษัทคิงส์ โรมันส์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสต์เมนต์ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและอาชญากรรมข้ามชาติ

บ่อนคิงส์โรมัน เปิดมาตั้งแต่ปี 2552 นักพนันที่ไปใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวจีน การเข้าไปใช้บริการกาสิโนแห่งนี้ ส่วนใหญ่ข้ามแดนจากท่าเรือข้ามฟาก อ.เชียงแสน ของไทยเข้าไป เดิมทีพื้นที่แห่งนี้อยู่ใต้อิทธิพลของ “หน่อ คำ” เจ้าพ่อยาเสพติด นักค้ายาเสพติดสัญชาติเมียนมา ที่มีอิทธิพลในเขตสามเหลี่ยมทองคำ

ว่ากันว่า ในยุคเริ่มต้น หน่อ คำ อาจเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของคิงส์โรมัน แต่ต่อมาขัดแย้งกับจ้าว เหว่ย กระทั่งหน่อคำ ก่อคดีปล้นเรือสินค้า สังหารลูกเรือจีน 13 ราย และถูกทางการจีนจับกุมตัวได้เมื่อช่วงปี 2555 ถูกลงโทษประหารชีวิต พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จึงเริ่มสงบสุขขึ้น โดยทางการจีนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งกองเรือลาดตระเวนแม่น้ำโขงร่วม 4 ชาติ ประกอบด้วย จีน เมียนมา ลาว และไทย

ช่วงเวลานี้อาณาจักรคิงส์โรมันก็ค่อยๆ เติบโต จากธุรกิจกาสิโนก็ขยายไปถึงโรงแรมขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวข้ามจากฝั่งไทยเข้าไปประมาณวันละ 600 คน หรือปีละประมาณ 3 แสนคน

พื้นที่เช่าของกลุ่มคิงส์โรมัน มีเนื้อที่โครงการ 1 หมื่นเฮกตาร์ หรือประมาณ 6 หมื่นไร่ รูปแบบเป็นการสร้างเมืองเพื่อการพักผ่อน โดยมีทั้งตลาด ห้องพักโรงแรม รีสอร์ท บ่อนกาสิโน พื้นที่ทางการเกษตร ท่าเรือสินค้า และท่าเรือท่องเที่ยว

ช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา มีการเปิดท่าเรือสินค้าบริเวณด่านพรมแดนสามเหลี่ยมคำ นอกจากนี้ ยังเคยเปิดท่าเรือท่องเที่ยวที่เกาะดอนซาว กลางแม่น้ำโขง มูลค่า 90 ล้านบาท มาแล้ว และได้มีการประชาสัมพันธ์ว่าจะสร้างโรงพยาบาล โรงงาน อาคารพาณิชย์ ถนนต่างๆ อีกมากมาย ล่าสุดมีการสร้างตึกใหม่ใกล้กาสิโนหลังเดิมสูง 17 ชั้น สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากฝั่งไทย บนเกาะดอนซาวยังมีการจัดงานเทศกาลดอกงิ้วบานซึ่งมีการแสดงตลาดสินค้ามาแล้วถึง 17 ครั้งทุกช่วงต้นปี

ในฝั่งเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมคำ มีทั้งฝั่งพักผ่อน ร้านอาหาร สถานบันเทิง และอาคารบ่อนกาสิโนที่ตั้งสูงเด่นเป็นรูปทรงมงกุฎอย่างชัดเจนอยู่ตรงกลาง ปัจจุบันมีโครงการสร้างอาคารใหม่ เป็นอาคารเฟส 3 ต่อจากอาคารกาสิโนหลังแรกและหลังที่ 2 ที่อยู่ติดกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ตรงเกาะดอนซาวที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือจากฝั่งไทยขึ้นฝั่งได้โดยไม่ต้องใช้เอกสารผ่านแดน แต่เสียค่าธรรมเนียมเหยียบแผ่นดินคนละ 30 บาท ภายในเกาะมีตลาดสินค้าชายแดนให้ได้เดินชม ส่วนด้านหลังมีโครงการก่อสร้างอาคารโรงแรม รีสอร์ท ที่พัก

ผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ระบุว่า ตามปกติจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปเยือนเป็นส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 3 แสนคน เขตดังกล่าวแม้จะมีพื้นที่พัฒนากว่า 1 หมื่นเฮกตาร์ แต่เป็นป่าประมาณ 7,000 เฮกตาร์ และพื้นที่ราบเพื่อการพัฒนาประมาณ 3,000 เฮกตาร์ แต่ก็พัฒนาไปได้เพียงแค่ 700 เฮกตาร์ และหลังจากการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ระดับ 5 ดาว สูงประมาณ 17  ชั้นแล้วเสร็จ ก็มีโครงการที่จะสร้างสนามบินต่อไปอีกด้วย

น่าจับตากรณีขึ้นบัญชีดำครั้งนี้ จะส่งผลต่ออิทธิพลและการพัฒนาของกลุ่มดอกงิ้วคำอย่างไร  โดยเฉพาะอิทธิพลของทางการจีนที่เพิ่มมากขึ้นในลุ่มน้ำโขง