5ปีกทม.ขึ้นมหานครโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำใหม่

กูรูโรงแรมชี้ อนาคตการ ท่องเที่ยวไทย ภายใน 5 ปี กรุงเทพฯ ก้าวสู่ เมืองมหานครแห่งใหม่ของโลก จากการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่ง

นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ เปิดเผยในงานเสวนาไทยแลนด์ ทัวริซึ่ม ฟอรั่ม 2018 ว่า ภายใน 5 ปีนับจากนี้ กรุงเทพมหานคร จะก้าวขึ้นเป็นมหานครแห่งใหม่ของโลก เป็นเมืองท่องเที่ยวในตะวันออกที่สามารถเทียบเท่า เมืองชั้นนำของโลก เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก โตเกียว รวมถึงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้

ทั้งนี้ ปัจจัยที่สำคัญมาจากศักยภาพของกรุงเทพฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งในระยะ 5 ปี รถไฟฟ้าใต้ดินในเขตกรุงเทพฯ จะมีระยะทาง 464 กิโลเมตร ทำลายสถิติความยาวของรถไฟฟ้าใต้ดินในลอนดอนที่มี 402 กิโลเมตร และนิวยอร์ก 380 กิโลเมตร

นอกจากนี้ สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ จะเป็นสถานีเชื่อมต่อที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน รวมถึงการพัฒนาเชื่อมต่อสนามบิน นานาชาติ 3 สนามบินให้เดินทางง่าย สะดวก รวดเร็ว แสดงถึงความพร้อมของกรุงเทพฯ ที่จะเป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเทียบระดับโลก

ด้าน นายแจสเปร์ ปาล์มควิส ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สถาบันรายงานสถิติโรงแรมทั่วโลก ระบุว่า การเติบโตของโรงแรมมีเสถียรภาพกว่า 3 ปี โดยปีที่ผ่านมารายได้เฉลี่ยต่อห้องเติบโตขึ้น 3.4% จากปีก่อน ยกเว้นในโซนสุขุมวิท จากโรงแรมที่เพิ่มขึ้นในตลาด และอนาคตโรงแรมระดับกลางจนถึงระดับบน จะเติบโตตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามากขึ้น

"ภาครัฐจะต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคมขนส่ง รวมถึงร่วมประสานงานกับภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของภาค ท่องเที่ยวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น" นายปาล์มควิส กล่าว

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ กล่าวว่า การที่ภาครัฐมีแผนพัฒนาระบบขนส่งทางราง ให้เกิดการเชื่อมโยง จะช่วยผลักดันธุรกิจโรงแรมเติบโตได้ดี และไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ ที่จะได้รับอานิสงส์ แต่จะเชื่อมไปยังปริมณฑล นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี

สำหรับแสนสิริได้รุกธุรกิจโรงแรมด้วย การลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 35% ในกลุ่มธุรกิจเดอะสแตนดาร์ด แบรนด์ธุรกิจบูติกโฮเทลระดับชั้นนำของโลก นำเข้า มาสู่กรุงเทพฯ และในเอเชีย ซึ่งจะเป็นการ ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งใหม่ของโลก

ภาพประกอบข่าว