posttoday

ศูนย์แพทย์สมุนไพร ผสานศาสตร์ไทย จีน อินเดีย

15 มกราคม 2561

โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ กำลังพัฒนางานวิจัยต่อยอดภูมิปัญญาของ ไทย จีน อินเดีย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้การดูแลรักษาได้ผลดีที่สุด

โดย...นิติพันธุ์ สุขอรุณ

ทุกวันนี้การรักษาผู้ป่วยด้วยแพทย์แผนปัจจุบันคือตัวเลือกแรกของการรักษาโรคชนิดต่างๆ ทว่าเม็ดยาที่ผลิตออกมาถูกทำขึ้นจากสารเคมีย่อมส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายด้วยเช่นกัน ขณะที่บางคนหันไปหาสมุนไพร ซึ่งเริ่มได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มากขึ้น ถึงผลของสรรพคุณที่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายดีเป็นปกติได้เช่นกัน หรือเรียกการรักษาแบบนี้ว่า “การแพทย์ทางเลือก”

เมื่อนำการแพทย์ทางเลือกมาประยุกต์ใช้รักษาโรคหรือผสมผสานเข้าร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อทำให้คุณภาพการรักษาดีมากยิ่งขึ้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ กำลังพัฒนางานวิจัย พร้อมทั้งรักษาผู้ป่วยอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากบางครั้งการแพทย์ปัจจุบันไม่สามารถหาทางรักษาได้ แต่เมื่อใช้สมุนไพรเข้ามาช่วยรักษา กลับได้ผลดีกว่าที่คาดไว้

สุกิจ ศรีทิพยวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เปิดเผยว่า การรักษาโรคในบางครั้งยาสารเคมีไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ เมื่อรับประทานเข้าไปย่อมส่งผลต่อทางเดินอาหาร ตับ ไต เช่น โรคปวดเมื่อย แม้จะทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดแล้วไม่พบสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไข้มีอาการเจ็บปวด แต่เมื่อนำสมุนไพรจากธรรมชาติมาใช้ ผลลัพธ์ออกมาดีทั้งยังไม่ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายอีกด้วย

ทั้งนี้ ความแตกต่างระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือก ต่างกันที่หลักคิดคือ การรักษาด้วยสมุนไพรรักษาในลักษณะองค์รวมทั้งร่างกาย จิตใจ เช่น บำบัดด้วยสมาธิ สวดมนต์ ดนตรีบำบัด จนไปถึงปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ ฯลฯ ซึ่งหากเลือกบำบัดด้านใดขึ้นอยู่กับพื้นฐานของผู้ป่วย เนื่องจากแต่ละคนมีพื้นฐานความพร้อมของร่างกายไม่เท่ากัน จึงต้องเลือกใช้สมุนไพรให้ถูกกับธาตุของคนคนนั้น

ผู้อำนวยการโรงพยาบาล กล่าวว่า ตัวอย่างโรคมะเร็ง ถ้ารักษาด้วยแผนปัจจุบันหนีไม่พ้นการฉายรังสี คีโม มีผลข้างเคียงไม่มากก็น้อย ส่วนการรักษาด้วยแผนทางเลือกสมุนไพรจัดสรรเป็นยาชุดแรกเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อน จากนั้นใช้ยาชุดที่สองเข้าไปจัดการมะเร็ง และเมื่ออาการของโรคมะเร็งดีขึ้นจะมียาชุดสุดท้ายเพื่อฟื้นฟูร่างกาย

“การแพทย์แผนปัจจุบันใช้การตรวจด้วยห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ แต่การแพทย์ทางเลือกตรวจตั้งแต่เดือนเกิด ฤดูกาล ธาตุพื้นฐานของผู้ป่วยแต่ละคนเป็นอย่างไร เพื่อมากำหนดสมุนไพรชนิดไหนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ต้องยอมรับว่าบางโรคการแพทย์แผนปัจจุบันยังไปไม่ถึง อีกทั้งยังพบว่าผลตรวจรักษาในโรคเดียวกันได้ผลลัพธ์แตกต่างกัน ซึ่งสามารถอธิบายได้ด้วยแพทย์ทางเลือกมากกว่า”สุกิจ กล่าว

สุกิจ กล่าวอีกว่า ทางศูนย์แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกำลังพัฒนางานวิจัยด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้ตรวจสอบว่ารูปแบบการรักษากับโรคภัยชนิดต่างๆ มีผลลัพธ์เป็นอย่างไร ก่อนนำมาเจาะลึกลงในระดับเซลล์ โมเลกุล เพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน พร้อมกับหานวัตกรรมต่อยอดภูมิปัญญาของแต่ละประเทศ เช่น ไทย จีน อินเดีย ซึ่งใช้ภูมิปัญญานี้มาหลายพันปีแล้ว ทั้งหมดจะถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้การดูแลรักษาได้ผลดีที่สุด

ศูนย์แพทย์สมุนไพร ผสานศาสตร์ไทย จีน อินเดีย

 

ผู้อำนวยการโรงพยาบาล กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้มีผู้ป่วยที่เป็นโรคออฟฟิศซินโดรมเพิ่มมากขึ้นส่วนใหญ่มีอาการปวดหัวเรื้อรัง ปวดกล้ามเนื้อ ไมเกรน เกิดจากนั่งทำงานเป็นเวลานานหรืออยู่แต่ในห้องแคบๆ สามารถรักษาด้วยการฝังเข็มไปจนถึงดนตรีบำบัด สมาธิบำบัด โดยการรักษาด้วยสมาธิบำบัด ดนตรีบำบัด เกิดจากพบว่าผู้ป่วยบางคนมีปัญหาด้านสภาพจิตใจ ดังนั้นศูนย์จึงมีห้องฝึกสมาธิ ห้องฟังดนตรีคลาสสิก พร้อมกับเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำองค์ความรู้นำกลับไปปฏิบัติด้วยตนเองที่บ้านได้

อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำว่าการใช้สมุนไพรยังไม่แนะนำให้คนไข้ไปซื้อหาสมุนไพรมารับประทานเอง เนื่องจากต้องให้ผู้ที่รู้จริงมาตรวจวินิจฉัยก่อน จากนั้นจะประเมินข้อมูลว่าโรคชนิดนี้ควรใช้สมุนไพรใดในการรักษา และต้องปรุงอย่างไรให้เหมาะกับคนไข้

ทั้งนี้ ทางศูนย์แพทย์ทางเลือกมุ่งเน้นฝึกอบรมพนักงาน นักเรียน นักศึกษา ถือเป็นพื้นฐานให้คุณภาพการรักษายั่งยืนมากขึ้น เนื่องจากจำนวนของคนไข้เริ่มเข้ามารักษาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากผู้ได้รับการฝึกอบรมไปแล้วได้มีโอกาสสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงสถาบันการรักษาจะทำให้การแพทย์ถูกพัฒนาต่อไปอีกมาก

นอกจากนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โทร. 02-289-7004 ต่อศูนย์แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชั้น 5 อาคารอนุสรณ์ 20 ปี เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ค่าใช้จ่ายราคาถูกเพราะเป็นของรัฐและเป็นนโยบายของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพชีวิตประชาชนด้วยการรักษาทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ