posttoday

เผาแล้วซากช้างป่ากุยบุรีถูกยิงตาย เจ้าคณะตำบลวอนอย่าฆ่าอีก

14 มกราคม 2561

เจ้าหน้าที่เผาซากเจ้าด้วนช้างป่าในอุทยานแห่งชาติกุยบุรีที่ถูกยิงตาย ขณะที่เจ้าคณะตำบลสะเทือนใจขอบิณฑบาตอย่าฆ่าช้างป่าอีก

เจ้าหน้าที่เผาซากเจ้าด้วนช้างป่าในอุทยานแห่งชาติกุยบุรีที่ถูกยิงตาย ขณะที่เจ้าคณะตำบลสะเทือนใจขอบิณฑบาตอย่าฆ่าช้างป่าอีก

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พบเจ้าด้วน ช้างป่างายาว อายุประมาณ 20 ปี ถูกยิงตายในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี หมู่ 8 บ้านพุบอน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา และทีมสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ผ่าซากช้างป่าพบหัวกระสุนปืนไรเฟิล บริเวณขมับซ้ายเหนือเบ้าตา และพบหัวกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12อีก 1 หัว อีกทั้งได้นำชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ หัวใจ ตับ ปอด ไต หลอดลม อาหารในกระเพาะ ฯลฯ ส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อตรวจสารพิษและสารเคมีต่างๆว่าเป็นชนิดใดบ้าง โดยใช้เวลาประมาณ 30วัน จะทราบผล

ล่าสุดวันนี้ นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม พร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้านบ้านพุบอน ,บ้านย่านซื่อ, บ้านยางชุม และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขตกุยบุรี , เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ,ทหารค่ายธนะรัชต์ ชุดรักษาความสงบที่ 2 พื้นที่อำเภอกุยบุรี ,  ทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย พร้อมชาวบ้าน ได้ร่วมกันนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 4 รูป จากวัดไร่บน มาทำพิธีสวดบังสุกุล ให้กับเจ้าด้วนเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ช้าง พร้อมได้ช่วยกันหาเศษไม้แห้ง ไม้ล้ม ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวมาสุมและทำการเผาซากช้าง ตามแบบวิธีโบราณ คล้ายกับการเผาบนเชิงตะกอน เนื่องจากไม่สามารถนำเครื่องจักรกลเข้ามาทำการขุดหลุมฝังกลบได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว ทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงอนุญาตให้ดำเนินการเผาซากช้างป่าได้

ขณะที่ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะคอยสุมไฟและผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าการเผาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดลุกลามไปยังจุดอื่น โดยคาดว่าจะเผาเสร็จทั้งหมดภายในเวลาเที่ยงคืนวันนี้

ด้าน พระครูอุดมธรรมวิภาค เจ้าอาวาสวัดไร่บน และเจ้าคณะตำบลกุยบุรี กล่าวว่า คณะสงฆ์รู้สึก เศร้าสะเทือนใจ ที่ช้างซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง เป็นสัญลักษณ์ของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ได้ดำรงอนุรักษ์เอาไว้มาเสียชีวิตในครั้งนี้  จึงขอบิณฑบาต ขอความวิงวอน เมตตา ให้ประชาชน เจ้าหน้าที่ ช่วยกันดูและรักษาช้างป่ากุยบุรีเอาไว้ให้อยู่คู่บ้านเมืองต่อไป และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีกกับช้างป่ากุยบุรี

ขณะที่ นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนัน ต.หาดขาม และบรรดาผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.หาดขาม ระบุว่า รู้สึกเสียใจที่พบช้างป่าตาย ด้วยฝีมือของคน เชื่อว่าเป็นเพราะผลประโยชน์ของคนเพียงคนเดียว เนื่องจากที่ผ่านมาคนกุยบุรีน้อมนำกระแสพระราชดำรัสในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ต้องการให้คนกับช้างป่าอยู่ร่วมกันได้ ด้วยการสร้างแหล่งอาหารแหล่งน้ำให้ช้างป่าในป่าลึก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่ายเร่งมือช่วยกันหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้มอบหมายให้ นายจารุวัฒร  นุชศิริ พนักงานพิทักษ์ป่า เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ธีระ สูงยิ่ง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม  เพื่อเอาผิดกับบุคคลที่ก่อเหตุฆ่าช้างป่า โดยมีหลักฐานสำคัญเป็นหัวกระสุนปืนไรเฟิลและหัวกระสุนปืนลูกซองเบอร์12 พร้อมผลการตรวจผ่าซากช้างป่า จากทีมสัตวแพทย์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยได้ทำบันทึกรายละเอียดการตรวจสอบและจุดพิกัดที่พบซากช้างป่า มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน ด้วย เพื่อให้ทางตำรวจเร่งติดตามสืบหาตัวผู้กระทำความผิดที่ยิงช้างป่ามาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งได้ลงบันทึกประจำวันพร้อมแนบเอกสารการถอดงาช้างป่าทั้ง 2 ข้าง โดยงาข้างขวายาว  113 เซนติเมตร ส่วนงาข้างซ้ายยาว 108 เซนติเมตร โดยนำไปเก็บรักษาไว้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี

พ.ต.อ.นิรันดร ศิริสังข์ไชย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ข้อมูลว่า ในวันพรุ่งนี้ให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม จะจัดส่งหัวกระสุนปืนไรเฟิลและหัวกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 อีก 1 หัว ไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดนครปฐม เพื่อเปรียบเทียบว่ายิงมาจากอาวุธปืนชนิดใด ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมทำหนังสือให้ 3 อำเภอหลัก ได้แก่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์  อำเภอกุยบุรี และอำเภอสามร้อยยอด จัดส่งข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนที่เข้าข่ายและสามารถใช้กระสุนปืนไรเฟิลยิงได้  ตลอดจนอาวุธปืนลูกซองเพื่อดำเนินการตรวจสอบเทียบเคียงกับผลตรวจของกองพิสูจน์หลักฐาน

เผาแล้วซากช้างป่ากุยบุรีถูกยิงตาย เจ้าคณะตำบลวอนอย่าฆ่าอีก