posttoday

“วิทยา”จี้สตช.ไขปมซื้อขายตำแหน่งรอมาข้ามปีแล้วคดีไม่คืบ

10 มกราคม 2561

นครศรีธรรมราช-"วิทยา"เผยรอมาข้ามปีแล้วสตช.ยังไม่ไขปมซื้อขายตำแหน่งอัดปฎิรูปโครงสร้างตำรวจไม่คืบ เผยคดีถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทสอบพยานไปแค่2ปาก

นครศรีธรรมราช-"วิทยา"เผยรอมาข้ามปีแล้วสตช.ยังไม่ไขปมซื้อขายตำแหน่งอัดปฎิรูปโครงสร้างตำรวจไม่คืบ เผยคดีถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทสอบพยานไปแค่2ปาก

เมื่อวันที่ 10ม.ค.61 นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่าได้ติดตามความคืบหน้าการปฏิรูปตำรวจ 3 เดือนมาแล้วแทบไม่มีความคืบหน้า ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน มีแต่การต่อรองของคณะกรรมการจนถึงวันนี้เกือบไม่มีความหวังเรื่องนี้ แต่ตำรวจเองรู้สึกว่าโครงสร้างตำรวจเข้มแข็งขึ้น และเป็นห่วงว่ากรรมการปฏิรูปตำรวจชุดนี้ไม่เคยฟังคำชี้แนะของนายกรัฐมนตรีเรื่องการกระจายอำนาจตำรวจไปยังกองบัญชาการหรือจังหวัดแต่เชื่อว่าท่านตั้งใจและเป็นความหวังของประชาชนได้ อยากให้ท่านกลับมาดูเรื่องงานปฏิรูปทั้งหมด

"พวกผมที่ต่อสู้ในนาม กปปส.เรียกร้องอยากเห็นปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เช่นปฏิรูปตำรวจเป็นประเด็นต้นๆ ที่เรียกร้อง และยินดีที่นายกฯ พูดถึงการกระจายอำนาจตำรวจ และเรียนกับนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่า ถ้าปฏิรูปตำรวจยุคนี้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ อย่าหวังว่าหลังการเลือกตั้งแล้วการปฏิรูปตำรวจจะคืบหน้า”นายวิทยา กล่าว

ส่วนการตั้งกรรมการสอบการซื้อขายตำแหน่งกันได้ยินรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงว่า จะแถลงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งตำรวจก่อนสิ้นปี 60 แต่ปรากฏว่าข้ามปีแล้วยังเงียบไม่มีการแถลงแต่อย่างใดได้ตามคดีเรื่องที่ตำรวจแห่งชาติแจ้งความหมิ่นประมาท ทางผู้รับผิดชอบคดีบอกว่าเพิ่งสอบพยานได้ 2 ปาก มีพยานที่จะสอบอีก 50 ปาก ซึ่งแน่นอนว่าถ้าปล่อยไว้สภาพอย่างนี้ก็เป็นเหยื่อคนหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่แจ้งความค้างไว้ที่โรงพักและคดีไม่มีความคืบหน้า

“ได้ไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้เข้ามาถ่วงคดีกับการสอบสวนของพนักงานสอบสวน เพราะเขาเป็นผู้เสียหายเอง สอบสวนเอง และสั่งฟ้องเอง ถ้าอัยการไม่เข้ามาถ่วงคงไม่ได้รับความเป็นธรรมซึ่งอัยการสูงสุดได้ตอบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการทั้งหมดยังไม่ทำอะไรคืบหน้าเลย อัยการไม่สามารถอาศัยช่องตามกฏหมายรัฐธรรมนูญเข้ามาถ่วงดุลตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่นายกฯ ยังมีอยู่จะ 10 เดือนหรือ 1 ปีกว่าจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ให้การดำเนินการเรื่องปฏิรูปให้แล้วเสร็จ”นายวิทยา กล่าว

นายวิทยาฯ กล่าวต่ออีกว่า เราไม่ขัดข้องเรื่องการที่จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นคนนอกหรือคนใน เพราะผ่านประชามติของประชาชน เราเคารพกติกาของกฎหมาย ถ้านายกฯ กลับมาอีกรอบเราก็ยินดี แต่ก่อนจะเสร็จภารกิจในครั้งนี้อยากเห็นการปฏิรูปเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่ปล่อยไว้อย่างนี้ ความตั้งใจของท่านหลายเรื่องที่ไม่ได้รับการขับเคลื่อนจากคณะรัฐมนตรี และข้าราชเท่าที่ควร เช่นเรื่องยางพารา ให้ส่วนราชการใช้ยางพาราทำถนนผ่านไป 2 ปีไม่มีใครขยับ จนท่านกลับมาขันน็อตในวันนี้ราคายางก็ขยับขึ้น ส่วนเรื่องการปฏิรูปตำรวจยังเงียบ

“เข้าใจว่านายกฯ แบกภาระคนอื่นไว้บนบ่าหนักเต็มที คนที่ท่านแบกหลายคน หากเสียสละบ้าง ควรพิจารณาตัวเองออกไปบ้าง อย่าเป็นภาระให้กับรัฐบาลมากนัก ไม่เช่นนั้นจะหนักยิ่งกว่า “เตี้ยอุ้มค่อม”คนที่รับภาระคือนายกฯ เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อนแค่ข้าราชการเตรียมการทุจริตมีการเรียกร้องให้รับผิดชอบ และผมก็รับผิดชอบตามความรู้สึกของประชาชนผมเป็นนักการเมืองอาชีพ แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่มาเพื่อเสียสละจึงขอเรียกร้องให้รับผิดชอบต่อประชาชนด้วย ให้เหมือนนักการเมืองที่สร้างมาตรฐานไว้ ไม่ใช่ได้อำนาจแล้วเสพติดอำนาจ”นายวิทยา กล่าว

ส่วนเรื่องการปฏิรูปเรื่องทุจริตคอรัปชั่นท่านเอาจริงเอาจังมาก แต่ข้างล่างยังไม่หยุด ประชาชนยังร้องเรียนเรื่องทุจริตคอรัปชั่นมามากต่อมาก โครงการที่ท่านกระจายสู่ประชาชนขอให้ท่านตามดูด้วย เพราะกระแสทุจริตคอรัปชั่นตัวเลขไม่ลดลงเลย และไม่มีนักการเมือง เมื่อไม่มีนักการเมืองแล้วใครทุจริต คำตอบมันอยู่ในตัวเอง สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้นายกฯ นำประเทศฝ่าวิกฤติไปด้วยดี สำหรับเรื่องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งหากนายกฯ ทำสำเร็จ ประโยชน์ทั้งหมดจะเกิดกับประชาชน และกองหนุนทั้งหมดจะกลับมายืนข้างท่าน.