ขนส่งราชบุรีสั่งปรับคนขับรถตู้บ้านโป่งก่อเหตุวิวาทไล่แทงกัน
ราชบุรี-ตำรวจบ้านโป่งเร่งตามหาคนขับรถตู้ก่อเหตุทะเลาะวิทวาทเอามีดไล่แทงกันระหว่างไปส่งผู้โดยสารเข้ากทม.
ราชบุรี-ตำรวจบ้านโป่งเร่งตามหาคนขับรถตู้ก่อเหตุทะเลาะวิทวาทเอามีดไล่แทงกันระหว่างไปส่งผู้โดยสารเข้ากทม.
กรณีที่ผู้โดยสารในรถตู้โดยสารได้โพสต์คลิปลงไปในเฟซบุ๊กราชบุรีบ้านโป่งออนไลน์ว่ามีคนขับรถตู้ 2 คันก่อเหตุทะเลาะวิวาท นำอาวุธมีดไล่แทงกันหลังจากที่ขับรถปาดหน้าแซงกันไปมาทำให้ผู้โดยสารรถทั้งคันแตกตื่นตกใจ
ต่อมา พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เดินทางไปที่ท่ารถตู้บ้านโป่ง ปิ่นเกล้าบริเวณโรงภาพยนตร์เฉลิมทองคำ(เก่า) เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง พร้อมประสานกับนายมนัสชัย ตั้งวิทย์โมไนย นายช่างตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดราชบุรี สาขาอำเภอบ้านโป่ง เข้าตรวจสอบรถตู้คันที่ผู้โดยสารนั่งมาในรถพร้อมกับถ่ายคลิปวีดีโอเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียล ทราบว่าเป็นรถตู้โดยสารหมายเลขทะเบียน 15- 8936 กรุงเทพมหานคร มีนายจักรพันธ์ จันทร์เรือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 6 ต.โนนสำราญ อ.แกล้งสนามนาง จ.นครราชสีมาเป็นคนขับรถซึ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ มาพอดี
สอบถามนายจักรพันธ์ เล่าว่า เมื่อเวลา11.45น.ได้รับผู้โดยสารเต็มคันออกจากท่ารถมุ่งหน้าจะไปส่งที่กทม.ขณะวิ่งมาตามถนนทรงพล บริเวณหมู่ที่ 3 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง ได้เจอกับรถตู้โดยสารวิ่งมาจากจังหวัดกาญจนบุรีมุ่งหน้ากทม.เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีการขับปาดหน้ากัน รถคู่กรณีได้ขับปาดให้รถของตนจอดเข้าข้างทาง จากนั้นได้ลงจากรถพร้อมๆกับคนขับรถตู้คู่กรณีก็ได้เปิดประตูลงมาพร้อมกับมือขวาถือมีดพกปลายแหลมพร้อมกับต่อยตนเข้าที่โหนกแก้มข้างซ้ายทั้งที่มือกำลังกำมีดอยู่เมื่อเห็นมีดจึงรีบวิ่งหนี คนขับรถคู่กรณีเห็นท่าไม่ดีเลยหันกลับมาขึ้นรถขับพาผู้โดยสารออกไป
"ครั้งแรกมีความคิดว่าจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็รู้สึกห่วงผู้โดยสารที่นั่งรอมาในรถเต็มคัน จึงนำผู้โดยสารไปส่งที่กทม.ก่อน เมื่อเดินทางมาถึงท่ารถตู้บ้านโป่งก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ยืนรออยู่และทราบว่าได้มีการเผยแพร่คลิป"นายจักรพันธ์ กล่าว
พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง ได้ให้นายจักรพันธ์ ไปแจ้งความพร้อมกล่าวว่า เบื้องต้นจากที่ดูในคลิปที่มีการออกสื่อไป ก็จะได้เรียกคู่กรณีเห็นว่าเป็นคนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีในส่วนของคดีอาญา แต่ส่วนขนส่งก็จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับในเรื่อง พรบ.ขนส่งไป ซึ่งจะขอดูข้อเท็จจริงและสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง และจะดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นจะได้แจ้งข้อหาคือ ทำร้ายร่างกาย มีการพกพาอาวุธ แต่ยังไม่ชัดเจนต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียดอีกครั้ง