posttoday

เปิดใจหนุ่มถูก"ท็อป ฮาวดี้"เผาบ้านไลฟ์สด โอดไม่คิดเพื่อนจะทำรุนแรง

15 ธันวาคม 2560

ลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูก “ท็อป ฮาวดี้” จุดไฟเผาบ้านทวงหนี้ไลฟ์สดโชว์ เปิดใจยอมรับ เป็นหนี้ "แม่ท็อป" จริง 10,000 บาท โอดไม่คิดเพื่อนจะทำรุนแรงขนาดจุดไฟเผาบ้านข่มขู่

ลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูก “ท็อป ฮาวดี้” จุดไฟเผาบ้านทวงหนี้ไลฟ์สดโชว์  เปิดใจยอมรับ เป็นหนี้ "แม่ท็อป" จริง 10,000 บาท โอดไม่คิดเพื่อนจะทำรุนแรงขนาดจุดไฟเผาบ้านข่มขู่

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. จากกรณีที่นายอาทิตย์  จักรคุ้ม  หรือท็อป ฮาวดี้  อายุ 26 ปี หนุ่มชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์  ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว  ขณะลงมือก่อเหตุใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านของนายหัส  โพธิ์เงิน    เพื่อทวงเงินจากลูกชายของนายหัส พร้อมใช้คำพูดข่มขู่ว่ายืมเงินแล้วไม่คืนก็จะโดนเผาบ้านแบบนี้ จนทำให้ฝาบ้านได้รับความเสียหาย  เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 9 ต.ค.  หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามตัวนายอาทิตย์  พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายจับ  จนสามารถจับกุมได้ พร้อมกับนายคมสัน   พรมสุรินทร์  อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาอีกคนที่เป็นคนถ่ายคลิปในวันก่อเหตุด้วย ได้ช่วงบ่ายของวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา  ซึ่งขณะนี้ทั้งสองถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.แคนดง  โดยพนักงานสอบสวนได้เลื่อนการส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นวันนี้ (15 ธ.ค.) เนื่องจากเมื่อวานนี้สอบปากคำเสร็จไม่ทัน 

ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชน และมีการโพสต์แสดงความคิดเห็นทางโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง  ส่วนมากต่างต่อว่าถึงการกระทำของนายอาทิตย์  หรือท็อป ฮาวดี้ ว่ากระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ  แต่หลายคนก็อยากจะรู้ชนวนเหตุที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น

ล่าสุดนายวรายุทธ  โพธิ์เงิน  อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูกท็อป  ฮาวดี้ จุดไฟเผาเพื่อทวงหนี้  ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง  โดยนายวรายุทธ ยอมรับว่าเป็นหนี้แม่ของท็อป จริงจำนวน 10,000 บาท  แต่ไม่ได้เป็นการกู้ยืม แต่เป็นเงินที่แม่ท็อปนำมาจ่ายค่าประกันตัวให้กับท็อป และตัวเอง ที่ถูกจับข้อหาเสพสารเสพติด เมื่อวันที่ 10 ต.ค. โดยจะต้องจ่ายค่าประกันตัวพร้อมกันทั้ง 2 คนแต่ตอนนั้นตนเองไม่มีเงิน แม่ท็อปจึงออกเงินให้ก่อนแต่ให้ตนเองทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่าเป็นหนี้แม่ท็อป 10,000 บาทโดยไม่มีดอกเบี้ย  ซึ่งในสัญญาระบุว่าให้ชำระคืนภายในวันที่ 10 ธ.ค.  แต่ยังไม่มีกำหนดวันที่จ่ายคืนตามสัญญาท็อปก็มาเผาบ้านข่มขู่   อีกทั้งก่อนหน้านี้แม่ท็อปก็ให้ตนเองไปกรีดยางเพื่อใช้หนี้  แต่กรีดได้ 6 วันก็บอกให้หยุด  จึงไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นเพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้   ไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยว  เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้บอกครอบครัวเพราะไม่อยากให้พ่อแม่ไม่สบายใจ  แต่ไม่คิดเรื่องจะรุนแรงบานปลายขนาดนี้

นายวรายุทธ  ยังกล่าวอีกว่า ไม่ได้เป็นหนี้ครอบครัวท็อปถึง 100,000 บาทและไม่เคยไปเอาเงินมาสร้างบ้านตามที่ท็อปกล่าวอ้างเลย   และที่ออกมาให้สัมภาษณ์เพราะอยากให้สังคมเข้าใจ  แต่ยอมรับว่ากลัวจะถูกท็อป กลับมาล้างแค้นหรือทำร้ายครอบครัว  เพราะท็อปเป็นคนชอบใช้ความรุนแรง  แต่ก็อยากถาม ท็อปว่า  เป็นเพื่อนกันจริงไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้  หากตนเองอยู่ในบ้านแล้วถูกไฟเผาจะเป็นยังไงเพื่อนกันจริงทำไงทำแบบนี้  จิตใจทำด้วยอะไร

หลังจากนั้นนายวรายุทธ  ก็ได้ก้มกราบเท้าพ่อ  เพื่อขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้ถูกเผาบ้านเสียหาย  พร้อมรับปากกับพ่อว่า  จะพยายามทำงานหาเงินมาใช้หนี้จำนวน 10,000 บาท คืนแม่ท็อป  เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก

ทางด้าน พ.ต.อ.สัมภาษณ์   ศรีจันทึก ผกก. สภ.แคนดง  ระบุว่า  ทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันนี้  โดยที่ต้องเลื่อนส่งฝากขังเนื่องจากสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเสร็จไม่ทัน  ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ญาติมายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด