posttoday

ทนายร.ต.ท.แจ้งเอาผิดแม่ค้าสลาก-ครูคดีล็อตเตอรี่30ล้าน

11 ธันวาคม 2560

ทนายความ ร.ต.ท. เข้าแจ้งความเอาผิดแม่ค้าสลากขายเกินราคา-ฝ่ายครูแจ้งความเท็จ เตรียมบุกร้องผบ.ตร.สอบวินัยนายตำรวจ

ทนายความ ร.ต.ท. เข้าแจ้งความเอาผิดแม่ค้าสลากขายเกินราคา-ฝ่ายครูแจ้งความเท็จ เตรียมบุกร้องผบ.ตร.สอบวินัยนายตำรวจ

จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี อ้างว่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ประจำวันที่ 1 พ.ย.60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท แต่สลากฯ ชุดดังกล่าวหายไป ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ข้าราชการตำรวจเกษียณอายุ เป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลาก จนเกิดการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต่อมาต่างฝ่ายต่างยืนยันว่า เป็นผู้ซื้อและถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค เวลา 11.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมทีมงาน นำ ร.ต.ท.จรูญ เข้าพบ พ.ต.ต.ชัยวัชริศ สิงห์สังข์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีนายปรีชา และ นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ให้กับนายปรีชา รวมทั้ง น.ส.พัชริดา พรมตา อายุ 53 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ที่ขายลอตเตอรี่ให้กับ นางรัตนาภรณ์

สำหรับหลักฐานที่ นายษิทรา นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย ภาพถ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 ภาพถ่ายขณะที่ ครูปรีชา นางรัตนาภรณ์ และ น.ส.พัชริดา ไปออกรายการสวนกระแส ทางช่อง 3 รวมทั้งแผ่นซีดีที่ทั้ง 3 คนไปออกรายการดังกล่าวด้วย

นายษิทร กล่าวว่า วันนี้ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ นางรัตนาพร และ น.ส.พัชริดา กรณีขายสลากเกินราคา ซึ่งเรื่องนี้ความมาเกิดขึ้นต่อพนักงานสอบสวนตั้งแต่ต้น แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีหรือดำเนินการใดๆ ดังนั้นจึงนำหลักฐานคือภาพถ่ายสลากรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ ที่ผู้ค้าขายให้ ร.ต.ท.จรูญ ในราคา 700 บาท ตกใบละ 140 บาท ซึ่งถือว่าขายเกินราคาไปเยอะมาก และนอกจากนี้ยังมีเอกสารคำรับสารภาพที่ไปออกรายการโหนกระแสทางช่อง 3 ว่าได้มีการขายเกินราคาที่กฎหมายกำหนดจริง และในวันนี้อยากจะเรียกร้องให้ตรวจสอบว่าทั้งสองคนนี้ไปซื้อสลากฯ มาจากผู้ขายคนใด ทั้งยี่ปั๊ว ซาปั๊วต่างๆ ว่า ราคาสลากเกินราคามาอยู่แล้วตั้งแต่ต้นหรือไม่

เรื่องที่สองคือการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายปรีชา ที่ได้มาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ว่า ทำสลากหาย ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะทาง ร.ต.ท.จรูญ ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าซื้อมาจากแม่ค้า ฉะนั้นก็เท่ากับว่าการที่ นายปรีชา มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่จดแจ้งข้อความเป็นเรื่องเท็จ และหากพบว่ามีการแจ้งความนอกจากวันที่ 2 พ.ย.อีก ก็จะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งจะต่างกรรมต่างวาระกัน ส่วนคนอื่นๆ จะแจ้งความดำเนินการอีกหรือไม่ หากมีหลักฐานพร้อมจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป หากพบว่าคำให้การของ นายปรีชาเป็นเท็จก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก ซึ่งหากพบว่าขบวนการมีผู้กระทำความผิดเกิน 5 คน ก็จะแจ้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ให้รับโทษกันหมดทุกคน

นายษิทร กล่าวว่า เรื่องที่สามคือ ฝ่าย นายปรีชา บอกว่าได้มีการส่งข้อความผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ในการซื้อสลาก แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาเป็นการติดต่อโดยใช้โทรศัพท์แทน จึงได้มายื่นหนังสือให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของ นายปรีชาและนางรัตนาภรณ์ ที่สนทนากันระหว่างวันที่ 25 ต.ค. ถึงวันที่ 30 พ.ย. ว่าได้มีการโทรคุยกันจริงหรือไม่ และช่วงเวลาที่มีการพูดคุย

อีกประเด็นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้อง มีการออกไปให้ข่าวตั้งแต่ต้นว่า ร.ต.ท.จรูญ จำไม่ได้ว่าไปซื้อสลากที่ไหน ยังไง ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยมีการให้ข่าวกับสื่อหลายครั้ง และเรื่องนี้มีการติดต่อให้ร.ต.ท.จรูญไปคุยกันที่บ้านพักของนายตำรวจด้วย ซึ่งจะดูว่าเหมาะสมหรือสมควรหรือไม่ โดยในวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 11.00 น. ตนและครอบครัวของ ร.ต.ท.จรูญ จะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อขอให้มาสอบหาข้อเท็จจริงว่า หากเรื่องนี้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ผิดจริงจะผิดวินัยหรือไม่

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมมั่นใจในพยานและหลักฐานมาตั้งแต่ที่ได้ข้อมูลมาจากเฟซบุ๊กของนายปรีชาแล้ว รวมทั้งหลักฐานที่ไปออกทีวีรายการต่างๆ ซึ่งพบว่าการให้สัมภาษณ์แต่ละครั้งข้อมูลไม่ตรงกัน ซึ่งก็ได้ให้ทีมงานรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเก็บเอาไว้เพื่อใช้ในการขึ้นศาลทั้งหมดแล้ว"นายษิทร กล่าว

นายษิทร กล่าวว่า จากหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ มั่นใจว่ากรณีที่เกิดขึ้นทำกันเป็นขบวนการ ที่สำคัญประชาชนธรรมดาไม่สามารถคิดทำเองได้ เชื่อว่าจะต้องมีคนที่คิดให้และเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องกฎหมาย รวมทั้งต้องมีอำนาจมากพอสมควร

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า มาถึงวันนี้ก็ยังจำรูปพรรณสัณฐานของแม่ค้าขายลอตเตอรี่ไม่ได้ และคนที่มากล่าวอ้างว่าเป็นคนขาย ตนก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช่หรือไม่ ซึ่งจำไม่ได้จริงๆ และวันที่ไปซื้อก็ไม่ได้มองหน้าแม่ค้าด้วยซ้ำ และวันนั้นก็ซื้อมาเพียงแค่ชุดเดียว โดยแม่ค้าเป็นคนหยิบจากแผงมาให้ตน และในวันนั้นก็มีแม่ค้าตั้งแผงขายอยู่หลายแผง และหลังจากซื้อเสร็จตนก็กลับบ้านทันที

ขณะที่ พ.ต.ต.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ สว.กก.5 บก.ป. กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้มาร่วมคลี่คลายคดี ซึ่งจะเร่งดำเนินการสืบสวนให้ได้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ได้โดยเร็วที่สุด ให้เกิดความยุติธรรม และเพื่อให้ประชายชนคลายความสงสัย ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานในทางคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ขอปิดเป็นความลับไว้ก่อน โดยได้ดำเนินการสอบปากคำพยานไปหลายปากแล้ว ซึ่งรายละเอียดเป็นเรื่องสำนวนการสอบสวน จึงยังไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตามขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้แถลงข่าวในคดีนี้ต่อไป

ส่วนในเรื่องต้นขั้วสลากที่ นายปรีชา นำมาเป็นหลักฐานกล่าวอ้างเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของสลากชุดดังกล่าวมาโดยตลอด นายษิทรา กล่าวว่า ในเรื่องต้นขั้วสลากที่อีกฝ่ายบอกว่ามี โดยหลังจากสอบถามคนที่ทำเกี่ยวกับสลากยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีต้นขั้ว ซึ่งถ้ามีต้นขั้วจะต้องเป็นรายใหญ่จริงๆ แต่นี่เป็นการกระจายสลากแล้วเอามารวมเล่มกัน ถ้ามีจริงขอให้ฝ่ายครูนำออกมายืนยันเพราะเห็นพูดตั้งแต่ต้นๆ ว่ามีต้นขั้ว แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่เคยเห็นเลยว่ามีจริงไหม ในส่วนของการตรวจดีเอ็นเอ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาก็ยังไม่มี ถ้าจะแจ้งข้อกล่าวหา ต้องมีพยานหลักฐานให้แน่นอนก่อนที่จะมาแจ้งข้อกล่าวหาใคร เพราะถ้าแจ้งข้อกล่าวหาคนบริสุทธิ์ แล้วเขาไม่ได้กระทำผิด ถึงแม้อนาคตอัยการจะสั่งไม่ฟ้องหรือศาลสั่งยกฟ้อง ก็มีความผิดแล้วเพราะถือว่าทำสำนวนคดีไม่รอบคอบ