posttoday

แจ้งข้อหาเพิ่มชายขับกระบะชนวินาศพัทยา หลังพบสารเสพติดในปัสสาวะ

05 ธันวาคม 2560

ตำรวจตั้งข้อหาเพิ่มชายขับกระบะชนแหลกพัทยา หลังแพทย์ระบุพบสารแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ส่งตัวฝากขัง 6 ธ.ค.นี้

ตำรวจตั้งข้อหาเพิ่มชายขับกระบะชนแหลกพัทยา หลังแพทย์ระบุพบสารแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ส่งตัวฝากขัง 6 ธ.ค.นี้

จากกรณีรถกระบะที่ขับโดย นายอัครเดช อุดมรัตน์ อายุ 44 ปี พุ่งชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่วิ่งสวนทางมา บริเวณ ถนนพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 15 ราย สุนัขตาย 1 ตัว และมีรถที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นนายอัครเดชอ้างว่ามีอาการโรคลมชักกำเริบ และขณะเกิดเหตุไม่รู้สึกตัว 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ไม่พบว่ามีปริมาณเกินที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงอายัดตัวไว้ก่อนทำหนังสือขอตรวจสอบประวัติการรักษาที่ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และนำตัวส่ง โรงพยาบาลบางละมุง เพื่อตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าขณะที่ได้รับคำหนังสือจากแพทย์แล้วว่าผลตรวจปัสสาวะของ นายอัครเดช คนขับมีผลเป็นสีม่วง และมีสารเสพติดชนิด "เมทแอมเฟตามีน"เจือปนอยู่ แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสารที่ผสมกับตัวยาชนิดใด ซึ่งในวันที่ 6 ธ.ค.จะได้นำปัสสาวะส่งไปตรวจพิสูจน์อีกครั้งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิสูจน์ยืนยันอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแล้วว่าเสพสารเสพติดในขณะขับรถ ซึ่งได้มอบหมายให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่า คดีนี้แต่เดิมได้ตั้งไว้หลายข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งการขับรถแบบประมาทหวาดเสียว และหลบหนีการจับกุม แต่ก็ได้เพิ่มเติมไปแล้วหลังแพทย์ทาง รพ.ระบุว่าพบสารเสพติดบางชนิด ซึ่งขณะนี้ได้งดการประกันตัวและเตรียมส่งฝากขังเป็นเวลา 12 วันที่ศาลจังหวัดพัทยาในวันที่ 6 ธ.ค.

ขณะที่การสอบปากคำนั้นที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าป่วยก็กำลังรอคำยืนยันจากแพทย์ รวม ทั้งผลการตรวจพิสูจน์เรื่องของสารเสพติดจากศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อประกอบสำนวนส่งฟ้องต่อไปอีกครั้ง

พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่ามีการพบยาเสพติดในรถของผู้ต้องหานั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่เจ้าหน้าที่พบยารักษาโรคที่ไม่สามารถระบุชนิดได้ซึ่งก็จะนำส่งตรวจพิสูจน์เช่นกัน

นอกจากนี้ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บไปแล้วจำนวนกว่า 20 ปาก ซึ่งจะได้มีการเรียกพบและดูเรื่องของค่ารักษาพยาบาลและความเสียหายที่เกิดขึ้นอีกครั้ง