posttoday

กทม.สร้างทางเชื่อม3สวนสาธารณะเป็น"อุทยานสวนจตุจักร"

28 พฤศจิกายน 2560

กทม.เตรียมก่อสร้างทางเชื่อมสวนสาธารณะ 3 แห่งย่านจตุจักรรวมเป็น "อุทยานสวนจตุจักร"

กทม.เตรียมก่อสร้างทางเชื่อมสวนสาธารณะ 3 แห่งย่านจตุจักรรวมเป็น "อุทยานสวนจตุจักร"

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า การก่อสร้างทางเชื่อมสวนวชิรเบญจทัศ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนจตุจักร เป็นการรวมสวนสาธารณะทั้ง 3 แห่งเข้าด้วยกันทำให้เพิ่มขนาดพื้นที่ทั้งหมดเป็น 727 ไร่ โดยเมื่อปี 2544 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ถ้ารวมตลาดนัดจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (Queen’s Park) SRT Botanical Park (กอล์ฟรถไฟ) เป็นสวนจตุจักร ก็จะสมพระเกียรติ” จากนั้นในปี 2546 คณะรัฐมนตรีมีมติให้รวมพื้นที่สวนสาธารณะทั้ง 3 แห่ง เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายให้แก่พระองค์ท่าน ต่อมาปี 2547 พระองค์ท่านได้พระราชทานพื้นที่สวนสาธารณะทั้ง 3 แห่ง คืนให้อยู่ในความดูแลของรัฐบาล โดยพระราชทานชื่อว่า “อุทยานสวนจตุจักร” ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการออกแบบทางเชื่อมสวนสาธารณะ 3 แห่ง เริ่มต้นสัญญาวันที่ 30 ก.ย. 60 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 26 มิ.ย. 61 ระยะเวลาการก่อสร้าง 9 เดือน ประกอบด้วย

1.ก่อสร้างทางเชื่อมสวนบริเวณสวนวชิรเบญจทัศกับสวนจตุจักร ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของโครงการ โดยสร้างลานทางเดินเชื่อม 2 สวน ด้วยวิธีการยกระดับผิวจราจรถนนกำแพงเพชร 3 ให้เสมอทางเท้าทั้ง 2 ฝั่ง และก่อสร้างลานพลาซ่า บริเวณด้านหน้าอาคารหอเกียรติภูมิรถไฟ ปรับปรุงสะพานข้ามคูน้ำเข้าสวนวชิรเบญจทัศ และก่อสร้างป้ายชื่ออุทยานสวนจตุจักร

2. สร้างทางเชื่อมสวนบริเวณสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์กับสวนจตุจักร โดยก่อสร้างลานเชื่อม 2 สวน ด้วยวิธีการยกระดับผิวจราจร ให้เสมอทางเท้าทั้ง 2 ฝั่ง เช่นเดียวกับทางเชื่อมสวนบริเวณสวนวชิรเบญจทัศกับสวนจตุจักร และก่อสร้างลานพลาซ่า บริเวณประตูสวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

3.การปรับปรุงสะพานทางเชื่อมสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์กับสวนวชิรเบญจทัศ โดยการปรับปรุงสะพานเดิมให้สวยงาม พร้อมทั้งออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณเชิงสะพานทั้ง 2 ฝั่งให้เรียบร้อยและสวยงาม

"เมื่อสวนสาธารณะทั้ง 3 แห่งเชื่อมโยงถึงกันแล้วจะเป็น อุทยานสวนจตุจักร ในรูปแบบสวนสาธารณะระดับมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้พื้นที่ที่เชื่อมต่ออย่างสอดคล้องต่อเนื่องกัน รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างครอบครัว ตลอดจนเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทางธรรมชาติสำหรับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป"พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว