posttoday

หมอถูกกล่าวหาทำอนาจารส่งทนายขอเลื่อนพบตำรวจเป็น3ธ.ค.นี้

26 พฤศจิกายน 2560

แพทย์ถูกกล่าวหาทำอนาจารสาวโรงงานส่งทนายขอเลื่อนพบตำรวจเป็นวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ยืนยันสู้คดีไม่หลบหนีแน่นอน

แพทย์ถูกกล่าวหาทำอนาจารสาวโรงงานส่งทนายขอเลื่อนพบตำรวจเป็นวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ยืนยันสู้คดีไม่หลบหนีแน่นอน

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่พนักงานหญิงของโรงงานในอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 11 คน ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สูงเนิน ให้ดำเนินคดีกับนายแพทย์ชายคนหนึ่ง ของโรงพยาบาลเอกชนใน จ.นครราชสีมา ในข้อหากระทำอนาจาร โดยอ้างว่า นายแพทย์คนดังกล่าวใช้มือจับลูบคลำบริเวณหน้าอก ระหว่างตรวจสุขภาพร่างกายประจำปี  เหตุเกิดภายในโรงงานที่ผู้เสียหายทำงานอยู่ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดนายแพทย์คนดังกล่าวได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอนาจารตามที่ถูกกล่าวหาและน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งและพร้อมสู้คดีจนถึงที่สุด

ล่าสุดหนึ่งในผู้เสียหายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากถามว่า นายแพทย์คนดังกล่าวว่า มีเหตุผลอะไรที่จะไปกลั่นแกล้ง ซึ่งนายแพทย์รายนี้ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ และข้อมูลจากปากของเพื่อนพนักงานโรงงานอีก 10 คนก็ยืนยันตรงกันว่าเป็นการกระทำอนาจารจริง และพวกตนก็จะสู้คดีให้ถึงที่สุดเช่นเดียวกัน

ด้าน ทนายความ ได้รับมอบหมายจากนายแพทย์ที่ถูกแจ้งความได้เข้าพบกับ  พ.ต.ท.ตระการ ศักดิ์ศรีกรม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ สภ.สูงเนิน พร้อมยื่นหนังสือขอเลื่อนการให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา โดยระบุเหตุผลในหนังสือว่า ติดภารกิจท โดยขอขยายระยะเวลาเข้าพบพนักงานสอบสวนออกไปอีกกำหนด 7 วัน โดยจะเข้าพบในวันที่ 3 ธ.ค. 2560 เวลา 14.00 น.

ทนายความกล่าวว่า  วันนี้นายแพทย์ที่ถูกกล่าวหา ได้มอบหมายให้ตนมายื่นหนังสือขอขยายเวลาเข้าพบพนักงานสอบสวนไปเป็นวันที่ 3 ธ.ค. 2560 เนื่องจากได้นัดหมายตรวจคนไข้ไว้ก่อนหน้านั้นแล้วไม่สามารถเลื่อนได้เพราะหากเลื่อนจะมีผลเสียต่องานในหน้าที่และแพทย์คนอื่นก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่แทน โดยตนได้รับการยืนยันจากนายแพทย์ว่าจะสู้คดีตามกระบวนยุติธรรมและจะมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 3 ธ.ค.ด้วยตัวเองไม่หลบหนีอย่างแน่นอน

ด้าน พ.ต.ท.ตระการ ศักดิ์ศรีกรม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเปิดเผยว่า หลังได้รับหนังสือขอขยายเวลาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาของนายแพทย์จากทนายความแล้ว ตนก็จะนำเสนอต่อผู้กำกับการ สภ.สูงเนิน เพื่อพิจารณาถึงเหตุผลที่กล่าวอ้างว่ามีความจำเป็นจริงหรือมีเจตนาอย่างไร ซึ่งถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีความจำเป็นพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ถ้าออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สองไม่มารับทราบข้อกล่าวหาอีกก็ถือว่ามีพฤติกรรมที่จะหลบหนี ตำรวจก็จะเสนอศาลออกหมายตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป