posttoday

ปภ.เผย4จังหวัดยังเผชิญน้ำท่วม

19 พฤศจิกายน 2560

ปภ.เผย พิจิตร-อยุธยา-ขอนแก่น-มหาสารคาม ยังเผชิญน้ำท่วม เตือนไทยตอนบนรับมืออากาศแปรปรวน

ปภ.เผย พิจิตร-อยุธยา-ขอนแก่น-มหาสารคาม ยังเผชิญน้ำท่วม เตือนไทยตอนบนรับมืออากาศแปรปรวน

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม - 19 พฤศจิกายน 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 79 อำเภอ 482 ตำบล 2,825 หมู่บ้าน 38 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 126,390 ครัวเรือน 327,420 คน ผู้เสียชีวิต 24 ราย

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น และมหาสารคาม รวม 13 อำเภอ 79 ตำบล 573 หมู่บ้าน  36,836 ครัวเรือน 82,190 คน อพยพ 40 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก อีกทั้งเร่งสำรวจ ความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิต ทรัพย์สินจากการประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อน ‘คีโรกี’ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 19 – 21 พฤศจิกายน 2560 จะส่งผลให้ ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอากาศจะเย็นลงและมีลมแรง

ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับ ฝนตกสะสมในพื้นที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มีกำลังแรง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด และศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือ สถานการณ์ภัยจากสภาพอากาศแปรปรวนและภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตาม สภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ ให้พร้อมปฏิบัติการ เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งขอให้ประชาชน ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตาม ประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากอุทกภัยสามารถ ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสาน ให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป