posttoday

ศาลฎีกานัดตัดสินคดีครูจอมทรัพย์17 พ.ย.นี้

14 พฤศจิกายน 2560

สกลนคร-ครูจอมทรัพย์รอลุ้นคำพิพากษาศาลฎีกา17พ.ย.นี้เปิดใจขอกลับเข้ารับราชการครูหวังกอบกู้ศักดิ์ศรีของโรงเรียนคืน

สกลนคร-ครูจอมทรัพย์รอลุ้นคำพิพากษาศาลฎีกา17พ.ย.นี้เปิดใจขอกลับเข้ารับราชการครูหวังกอบกู้ศักดิ์ศรีของโรงเรียนคืน

กรณี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร วัย 54 ปี อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกกล่าวหาขับรถชนคนตาย และศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งขอให้รื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ศาลจังหวัดนครพนม ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ รฟ.1/58 หมายเลขแดงที่ 2/58 คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครพนม เป็นโจทท์ยื่นฟ้องนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ผู้ร้องและจำเลย หรือครูจอมทรัพย์  อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ในเรื่องความผิดประมาทต่อชีวิต ความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 มาตรา 9 ในวันที่ 17 พ.ย. 60 เวลา 13.00 น.

ด้านนางจอมทรัพย์ ขณะนี้อาศัยอยู่ที่บ้านม่วงไข่ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย อาศัยอยู่กับสามี และลูก และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลังทราบหมายนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ว่า  รู้สึกดีใจ และตื้นตันกับสิ่งทีรอคอยมานาน ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็จะขอน้อมรับพิพากษาของศาลเพราะถือว่าได้ต่อสู้แล้วได้ให้สังคมรับรู้แล้ว ได้ต่อสู้ตามขั้นตอนของกฏหมาย แต่สิ่งที่จะต้องทำตามที่ตั้งใจและอธิฐานไว้ คือการทำบุญมอบชุดขาวปฏิบัติธรรมให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ ส่วนในเรื่องขอกลับเข้ารับราชการจะเดินหน้าต่อเพราะรักและภูมิในในอาชีพครูได้ทุ่มเทให้กับอาชีพนี้มาตลอดชีวิตที่เข้ารับราชการยังห่วงเด็กนักเรียนที่ขาดโอกาสได้ทำงานขาดช่วงไว้ จะขอกลับไปสานต่อ เพราะก่อนที่จะเข้าไปอยู่เรือนจำเด็กที่โรงเรียนมี 300 - 400 คน แต่ตอนนี้ลดลงเหลือเกือบครึ่ง ทำให้เชื่อว่า เป็นเพราะตนเองได้สร้างมลทินให้กับโรงเรียน จึงอยากจะกลับเข้าไปสานต่อและลบล้างมลทิน กอบกู้ศักดิ์ศรีของโรงเรียนกลับคืนมา