ตำรวจตามจับถึงบ้าน! หนุ่มขับรถกร่างควักไม้ขู่ผู้หญิง

ตำรวจบางพลีตามรวบหนุ่มกร่างในคลิปขับรถแซงขวาในเลนสวน ก่อนควักไม้ขู่หญิงคู่กรณีให้ถอยรถหลบ

จากกรณีเฟซบุ๊กของผู้หญิงรายหนึ่งได้เผยแพร่คลิปจากกล้องหน้ารถที่เผยให้เห็นรถยนต์กระบะกระบะ อีซูซุ สีน้ำเงิน ขับแซงขวาในเลนสวนมาจอดประจันหน้ากับรถของเจ้าของคลิปก่อนที่จะลงจากรถพร้อมหยิบไม้มาข่มขู่สั่งให้ถอยรถหลบ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนสังคมออนไลน์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ย. พ.ต.อ. โสภณ  มงคลรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท. รักษ์ศักดิ์ เมฆจินดา รองผกก.สส.สภ.บางพลี สืบสวนหาข้อมูลชายและรถคันที่ปรากฏในคลิป จนทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในซอย จตุรมิตร ต.บางพลีใหญ่  อ.บางพลี  จ.สมุทรปราการ  เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา  12.30 น.

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.บางพลี จึงเดินทางไปจับกุม นายกฤษณะ ซึ่งเป็นชายในคลิปดังกล่าวที่บ้านพัก จากการตรวจค้นในรถพบไม้คมแฝกจำนวน 1 ท่อน   เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่สภ.บางพลี 

ขณะที่ นายกฤษณะ ให้การรับสารภาพว่า เป็นชายที่ปรากฏในคลิปจริง สาเหตุมาจากขณะที่ขับรถยนต์จากบ้านพักเพื่อจะไปทำงาน เมื่อถึงบริเวณกลางซอยจตุรมิตรได้เบี่ยงหลบรถที่จอดอยู่ข้างทาง แต่ได้มี ผู้หญิงขับรถเก๋งโตโยต้าพุ่งมาในเลนสวน จึงเกิดบันดาลโทสะถือไม้คมแฝกลงไปข่มขู่ โดยสาเหตุที่ทำไปเป็นเพราะความอารมณ์ร้อนของตนเอง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายร่างกายคู่กรณี แต่ต้องการข่มขู่เท่านั้น 

"ผมยอมรับผิดและฝากกราบขอโทษหญิงสาวคู่กรณีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งอยากฝากเตือนไปยังผู้ขับขี่ทุกท่านขออย่าอารมณ์ร้อนเหมือนผม ครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดใหญ่ สำหรับผมและครอบครัวโดยเฉพาะมารดาที่อยู่ในอาการเครียดมากจึงอยากขอวอนสังคมให้อภัย ผมและครอบครัวด้วย"นายกฤษณะกล่าว

ด้าน พ.ต.ท. ประมวล  ทองภู  รองผกก.สอบสวนสภ.บางพลี ได้ดำเนินคดีในข้อหา 1.พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร  2.กระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยในทางสาธารณะ หรือสาธารณะสถาน  โดยสั่งปรับในอัตราโทษสูงสุด ในข้อหาที่ 1 คือ ปรับเป็นเงินสด 5 พันบาท ข้อหาที่ 2 ปรับจำนวน 1 พันบาท รวม 6พัน บาท ก่อนจะลงบันทึกประจำวันและทำประวัติไว้  และปล่อยตัวกลับไป

ด้าน พ.ต.อ. โสภณ  โสภณมงคลรัตน์ ผกก. สภ. บางพลี ระบุว่า ในคดีนี้ ยังไม่มีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความแต่อย่างใด และยังติดต่อผู้เสียหายไม่ได้ หากผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ก็จะเรียกตัวผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมทันที