posttoday

สืบสานพระราชดำริ ผลสำเร็จของ"บ้านเปร็ดใน"

05 พฤศจิกายน 2560

ชาวบ้านชุมชนบ้านเปร็ดใน จ.ตราดนำแนวพระราชดำริมาใช้เพื่อต่อสู้กับปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

โดย...จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์

แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งดำเนินการเป็นโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ หรือ 4,000 บทเรียน ถือเป็นพระราชมรดกสำคัญที่พระราชทานให้กับแผ่นดินไทย เพื่อประโยชน์สุขของปวงพสกนิกร และวันนี้โครงการตามพระราชดำริต่างๆ ก็มีหลายหน่วยงาน สืบสานพัฒนาต่อไป อย่างเช่นที่ชุมชนบ้านเปร็ดใน ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด

อรรถพล สืบสอน กำนัน ต.ห้วงน้ำขาว เล่าว่า ชุมชนบ้านเปร็ดในได้นำแนวพระราชดำริมาใช้เพื่อต่อสู้กับปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากน้ำทะเลรุกเข้าไปในพื้นที่น้ำจืด และปัญหาความเสื่อมโทรมจากป่าชายเลนที่ถูกบุกรุกจากกลุ่มนายทุนที่ทำนากุ้ง จนชาวบ้านได้รับผลกระทบเป็นหนี้สินกว่า 30 ล้านบาท แต่ด้วยความรักและสามัคคีของชาวบ้านที่ร่วมมือร่วมใจกันนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ อีกทั้งได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุนและวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ปัจจุบันชุมชนสามารถลดหนี้สินเหลืออยู่เพียง 10 ล้านบาท และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนปีละ 3 หมื่นกว่าบาท/ครัวเรือน ทำให้ประชาชนมีความสุขจนถึงปัจจุบัน

ล่าสุด เพื่อสืบสานและขยายผลบทเรียนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ชุมชนบ้านเปร็ดในได้ร่วมกันดำเนินโครงการพิพิภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ซึ่งมีพิธีเปิดไปเมื่อเร็วๆ นี้

สืบสานพระราชดำริ ผลสำเร็จของ"บ้านเปร็ดใน"

อรรชกา สีบุญเรือง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ชุมชนบ้านเปร็ดในสามารถนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาปรับใช้และสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ในการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งตรงกับแนวนโยบายของทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการในชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เข้าไปแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค แต่สำหรับชุมชนบ้านเปร็ดในเป็นการแก้ปัญหา 3 น้ำ คือ น้ำจืด น้ำกร่อย น้ำทะเล ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ยาก แต่ชุมชนสามารถบริหารจัดการและแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้จนประสบความสำเร็จ ซึ่งทางกระทรวงได้เข้ามาต่อยอดในเรื่องของหลักวิชาการจนทำให้การแก้ปัญหาเรื่องน้ำของบ้านเปร็ดในและวันนี้ได้กลายเป็นชุมชนต้นแบบในการแก้ปัญหาเรื่องน้ำได้อย่างน่ายกย่องและชื่นชม

 

ชลธร ดำรงศักดิ์ ที่ปรึกษาโครงการกลุ่มธุรกิจ SCG ได้กล่าวชื่นชมชุมชนบ้านเปร็ดในที่ได้นำแนวพระราชดำริเรื่องบริหารจัดการน้ำมาใช้ ซึ่งทางกลุ่มธุรกิจ SCG ได้ริเริ่มโครงการในชุมชนต่างๆ และได้เห็นศักยภาพและความตั้งใจของชุมนจึงเข้ามาสนับสนุนให้คำปรึกษา และร่วมมือจนบ้านเปร็ดในสามารถก้าวมาเป็นชุมชนต้นแบบในการบริหารจัดการ 1 ใน 15 ของประเทศ

สืบสานพระราชดำริ ผลสำเร็จของ"บ้านเปร็ดใน"

ขณะที่ สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ก็กล่าวว่า บ้านเปร็ดในเป็นต้นแบบ 1 ใน 15 พื้นที่ของประเทศ ที่มีการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ซึ่งประสบความสำเร็จจากความตั้งใจ ความเข้าใจ ความรัก และความสามัคคี ตรงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

 

“สิ่งที่ทำตรงตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน และยังสามารถบริหารจัดการน้ำที่ขอบอกว่าเป็น 4 น้ำ คือ น้ำทะเล น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเสีย นับเป็นสุดยอดของหลักวิชาการ ที่ยากในการที่จะแก้ปัญหาได้ แต่ชุมชนบ้านเปร็ดในสามารถทำสำเร็จ เรียกว่าเป็นดุษฎีบัณฑิตที่ไม่ต้องให้เรียนรู้อีกแล้ว”

ดร.สุเมธ กล่าวว่า ผลสำเร็จของชุมชนบ้านเปร็ดในจะเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบให้ชุมชนอื่นได้เข้ามาศึกษา ซึ่งเป็น 1 ใน 15 ของประเทศ ซึ่งความสำเร็จของบ้านเปร็ดในนั้นมิใช่เพียงแก้ปัญหาเรื่องน้ำ แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องความยากจนที่นำแนวเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ในการทำเกษตรมาใช้จนทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มรายได้มากขึ้น

“นี่เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านได้สอน และแม้พระองค์ท่านจะจากไปแล้ว แต่คำสอนเหล่านี้ก็จะอยู่กับชุมชนบ้านเปร็ดในที่เป็นต้นแบบในการนำพระราชดำริของพระองค์ท่านมาใช้จนประสบความสำเร็จ”

ดร.สุเมธ กล่าวว่า โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กว่า 4,000 โครงการ หรือ 4,000 บทเรียน เป็นเรื่องราวที่พระองค์ท่านได้ทำการเรียนรู้ ทดสอบจนประสบผลสำเร็จ แล้วนำมาสอนให้กับประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้แม้พระองค์ท่านจะจากไปแล้วแต่คำสอนของพระองค์ท่านจะดำรงอยู่ต่อไป

“ในชุมชนต้นแบบที่มีอยู่ทั่วประเทศ และสิ่งที่ชุมชนต้นแบบที่นำแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านมาใช้จนประสบความสำเร็จที่มีอยู่ 6 แห่ง ในแต่ละภูมิภาคของประเทศจะเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับประชาชนทุกคน เช่น ที่ภาคตะวันออกที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำทะเล ป่าชายเลน ก็จะอยู่ที่โครงการพระราชดำริอ่าวคุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งใช้เป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี”

ดร.สุเมธ ย้ำว่านี่คือตัวแทนของพระองค์ท่าน ที่แม้จะจากไปแล้วแต่คำสอนของพระองค์ท่านยังอยู่กับพวกเราตลอดไปเหมือนคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ยังดำรงอยู่ต่อไปแม้จะปรินิพพานมาแล้วกว่า 2,500 ปี 

สืบสานพระราชดำริ ผลสำเร็จของ"บ้านเปร็ดใน"