posttoday

นายกฯเตือนชาวใต้รับมือฝนตกหนักน้ำท่วมให้ติดตามข่าวใกล้ชิด

03 พฤศจิกายน 2560

นครศรีธรรมราช-นายกฯเตือนชาวภาคใต้ระวังฝนตกน้ำท่วมขอให้ติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดลั่นมาช่วยแก้ปัญหาแบบยั่งยืนไม่ใช่ทำกันแบบเดิมๆ

นครศรีธรรมราช-นายกฯเตือนชาวภาคใต้ระวังฝนตกน้ำท่วมขอให้ติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดลั่นมาช่วยแก้ปัญหาแบบยั่งยืนไม่ใช่ทำกันแบบเดิมๆ

เมื่อวันที่3พ.ย.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปมอบนโยบายและติดตามป้องกันปัญหาน้ำท่วมให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ และจ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบเรือท้องแบน 11 ลำ เพื่อใช้ในช่วงเกิดอุทกภัย และมอบเงินให้ผู้สูงอายุ และทุนการศึกษาให้กับนักเรียนจำนวน 100 ทุน

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับโดยย้ำเตือนให้เฝ้าติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด และต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์โลก วันนี้ได้นำรัฐมนตรีในกระทรวงหลักๆมาเพื่อหารือร่วมกันในการแก้ปัญหาให้กับชาวภาคใต้ร่วมกันทุกอย่างจะต้องมีการปรับเปลี่ยนปัญหามีอยู่ว่าทุกคนต้องร่วมมือ จะให้ใช้อำนาจอย่างเดียวคงไปไม่ได้ต้องเข้าใจตรงนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า การแก้ปัญหาจะเน้นแก้ปัญหาแบบยั่งยืนไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเดิมๆซึ่งก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีก อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วย ปัญหาของปากพนังต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาที่มีเรื้อรังยาวนานมีการบุกรุกพื้นที่ประชากรมีมากขึ้น การแก้ปัญหาก็จะต้องแก้อย่าให้กลับมามีปัญหาเหมือนเดิมซ้ำซากเช่น น้ำท่วมซ้ำซาก ภัยแล้งซ้ำซาก ทำอย่างไรอย่างให้เป็นปัญหาซ้ำซากเหล่านี้เป็นต้น

ที่เดินทางมาวันนี้ก็เพื่อจะมารับทราบปัญหาจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งภาคใต้เพื่ออย่าให้เกิดน้ำท่วมและประชาชนเดือดร้อนเหมือนช่วงปลายปีที่ผ่านมา วันนี้พายุเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม23จังหวัดเหลือเพียง6จังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม  ต่อไปนี้จะดูเป็นรายจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ที่อาจจะไม่เหมือนกัน

ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกำลังพูดกับประชาชนนั้นได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก นายกฯพูดติดตลกว่า ระหว่างผมกับฝนอะไรจะหยุดก่อน ฝนหรือผมจะหยุดพูด ท่ามกลางเสียงปรบมือของชาวบ้านดังกึกก้อง จากนั้น นายกรัฐมนตรีก็ได้เดินทางไปเยี่ยมการจัดนิทรรศการก้าวตามรอยพ่อ และรับมอบสิ่งของจากประชาชนก่อนจะประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง14จังหวัดภาคใต้ต่อไป

สำหรับการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ มีการรายงานว่า ภาคใต้ได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นทะเลจีนใต้ตอนล่าง ส่งผลให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นมา แต่ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณน้ำฝนจะลดลงตั้งแต่วันที่ 4 เป็นต้นไป และจะได้รับผลกระทบอีกครั้งในวันที่ 8 - 10 พฤศจิกายนนี้ โดยได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นทีเสี่ยงเฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และขอให้ติดตามการประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

นายกฯเตือนชาวใต้รับมือฝนตกหนักน้ำท่วมให้ติดตามข่าวใกล้ชิด

 ส่วนการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำจากพายุดังกล่าว กรมชลประทานเร่งดำเนินการลดระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 39 แห่ง พร้อมกับเตรียมความพร้อมติดตั้งเครื่องจักร เช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถลากจูงเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 16 จุด ในพื้นที่ภาคใต้ 14 อำเภอที่มีความเสี่ยงแล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำด้วยว่าแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่ดีคือการเตรียมข้อมูล นำข้อมูลเดิมที่เคยเกิดเหตุมาวางแผนล่วงหน้าเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงมีความห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน และทรงติดตามทุกปัญหาของราษฎร นอกจากนี้ ขอให้ส่วนราชการน้อมนำแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาปรับประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ให้สามารถแก้ไขปัญหาได้  ลดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมกับร่วมมือกันสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็งตั้งแต่เกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ รวมถึงสร้างฐานข้อมูลให้เป็นระบบสามารถเรียกดูข้อมูลได้ทันที โดยส่วนราชการต้องเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลแก้ไขปัญหา ต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนอย่างเหมาะสมในแต่ละพื้นที่และสอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมกับสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านโอกาสให้กับประชาชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญในเรื่องการติดต่อสื่อสาร และเฝ้าติดตามโดยเฉพาะสื่อออนไลน์และโซเซียลมีเดีย หากเกิดการบิดเบือนข้อมูลและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องรีบแก้ไข และสร้างความเข้าใจ ไม่ปล่อยให้ปัญหาขยายวงกว้าง จนไม่สามารถควบคุมได้ จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมการลงพื้นที่ในวันนี้ และเดินทางไปวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อสักการะพระบรมธาตุ