posttoday

พบซากพะยูนถูกมัดกับต้นโกงกางที่เกาะลิบง กระดูก-เนื้อหายไป

23 ตุลาคม 2560

พบซากพะยูนถูกเชือกผูกติดกับรากต้นโกงกางที่เกาะลิบง กระดูก-เนื้อหายไป เร่งพิสูจน์เหตุการตาย

พบซากพะยูนถูกเชือกผูกติดกับรากต้นโกงกางที่เกาะลิบง กระดูก-เนื้อหายไป เร่งพิสูจน์เหตุการตาย

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกลุ่มพิทักษ์พะยูนว่า  มีชาวบ้านพบซากพะยูนที่บริเวณปากคลองโต๊ะ ด้านทิศตะวันออก ในพื้นที่ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง  จึงประสานให้เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เดินทางไปตรวจสอบ  โดยพบซากพะยูน 1 ตัว ถูกเชือกผูกติดกับครีบหน้า แล้วนำไปโยงกับรากต้นโกงกาง ในสภาพที่เปื่อยยุ่ย เหลือเพียงลำไส้กับหนังนิดหน่อยเท่านั้น  จึงไม่สามารถระบุเพศ อายุ น้ำหนัก ความยาว หรือรายละเอียดต่างๆ ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นการตายของพะยูนเองตามธรรมชาติ หรืออาจไปติดกับเครื่องมือประมงชนิดใดชนิดหนึ่ง  ก่อนที่ร่างจะถูกซัดเข้ามายังแนวป่าโกงกาง แล้วมีชาวบ้านมาพบเห็นเข้า จึงใช้เชือกมัดร่างทิ้งไว้  หรืออาจเป็นขบวนการล่าพะยูนเพื่อเฉือนเอาอวัยวะต่างๆ ไป เนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่พบส่วนของกระดูกและเนื้อเลย 

อย่างไรก็ตาม เพื่อความชัดเจนเจ้าหน้าที่ก็ได้นำซากพะยูนตัวดังกล่าวส่งไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นอาจจะเนื่องมาจากพะยูนไปติดกับเครื่องมือประมงที่ผิดกฏหมายบางชนิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มตามอยู่ 1-2 วันแล้ว ก่อนที่จะฉวยโอกาสตัดเอาอวัยวะบางส่วนของพะยูนไปด้วย  หรือไม่ก็อาจจะเป็นการล่าโดยตรง ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็คงเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างมาก เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มานานแล้ว  จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องยิ่งเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลพะยูนให้เข้มข้นมากขึ้น ด้วยการรวมพลังเฝ้าระวังทุกๆ พื้นที่

ทั้งนี้ การพบซากพะยูนตัวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังเกิดข่าวเกี่ยวกับสัตว์อนุรักษ์ชื่อดังชนิดนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  หลังจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกมาระบุว่า ขณะนี้พะยูนจัดอยู่ในภาวะวิกฤตแล้ว เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้ล่าเพื่อนำกระดูกไปทำยาโด๊ป นำเขี้ยวไปทำของขลัง และนำเนื้อไปปรุงอาหาร  พร้อมคาดว่าในน่านน้ำไทยมีพะยูนไม่เกิน 200 ตัว และมีอยู่ในเขตห้ามล่าฯ หมู่เกาะลิบง 130-150 ตัว  ซึ่งต่อมาได้ถูกทักท้วงจากกลุ่มอนุรักษ์ต่างๆ ในจังหวัดตรัง ว่า ข้อมูลที่อธิบดีฯ นำมาเปิดเผยนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง