posttoday

กรรมตามทันโจรวิ่งราวสร้อยเจอผู้เสียหายในร้านทอง(มีคลิป)

18 ตุลาคม 2560

สงขลา-โจรวิ่งราวสร้อยไปขายร้านทองเป็นจังหวะเดียวกับผู้เสียหายพาอีกครึ่งไปเปลี่ยนสุดท้ายรีบชิ่งยอมทิ้งรถจยย.ไว้ตำรวจติดตามตัวมาสอบสวน

สงขลา-โจรวิ่งราวสร้อยไปขายร้านทองเป็นจังหวะเดียวกับผู้เสียหายพาอีกครึ่งไปเปลี่ยนสุดท้ายรีบชิ่งยอมทิ้งรถจยย.ไว้ตำรวจติดตามตัวมาสอบสวน

เมื่อวันที่18ต.ค.60 เวลา11.23น. ที่ร้านทองห้องทองจินดา เลขที่ 157 ย่านถนนทุ่งเสา 2 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา โจรวิ่งราวทรัพย์ อายุ ประมาณ 25-30ปี นำสร้อยคอทองคำสภาพขาดครึ่งหนึ่งมาขายให้กับร้านทองแห่งนี้เป็นเวลาเดียวกันกับที่ นางผิวพรรณ ตันยะกุล อายุ 31ปี ผู้เสียหายนำสร้อยคอทองคำอีกครั้งหนึ่งไปเปลี่ยนสร้อยใหม่เช่นกันเมื่อทั้งสองคนนำทองมาชั่งบนตาชั่งอันเดียวกันก็ปรากฏว่าเป็นทองลายเดียวกัน น้ำหนักครบ 2 สลึง และข้อต่อที่ขาดเข้ากันทุกอย่าง

นางผิวพรรณ ผู้เสียหายก็จำได้แม่นยำว่าเป็นสร้อยของตัวเองที่เพิ่งถูก 2  คนร้าย ขับรถจักรยานยนต์กระชากขาดไปครึ่งหนึ่ง เมื่อช่วงเช้าวันนี้เหตุเกิดใกล้บ้านพักบริเวณถนนร่วมพัฒนา  หลังห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า  เขตเทศบาลเมืองคอหงส์  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะขับรถจักรยานยนต์ออกมาซื้อสิ่งของ

โจรรายนี้อ้างว่าเป็นพนักงานเทศบาลเมืองคอหงส์เก็บสร้อยได้ในถังขยะเมื่อคืนนี้  หากไม่เชื่อก็จะไปตามพ่อมาช่วยยืนยัน แต่เมื่อทั้งเจ้าของทอง และทางร้านทอง ยืนยันหนักแน่นว่าสร้อยทั้งสองเส้นเป็นอันเดียวกัน โจรก็เริ่มแสดงอาการรุกรี้รุกรนและเดินออกจากร้านไป แต่ได้ถูกสามีของ นางผิวพรรณ ซึ่งเป็นทหารดักตัวเอาไว้ เพื่อรอให้ตำรวจมาก่อน  แต่ชายคนนี้ก็ฉวยจังหวะวิ่งหนีไปในซอยข้างร้านทอง ยอมทิ้งรถจักรยานยนต์ซูซูกิ รุ่นสกายไดร์สีแดงขาว  หมายเลขทะเบียน งจค 668 สงขลา เอาไว้

หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.ภีระพัฒน์ แก้วดำ  รอง สวส.(สอบสวน) และร.ต.อ.ณรงค์ สุวรรณรัตน์ รอง สว.สส. ได้มาตรวจที่เกิดเหตุและตรวจค้นเอกสารภายในรถทราบ ชื่อผู้ครองครองคือ นายมงคล ไชยคีรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ซอยชุมชนบ่อนไก่-ทางยาง ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเมื่อเทียบเคียงกับชายต้องสงสัยจากภาพกล้องวงจรปิดภายร้านทอง ก็พบว่ามีลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งทางตำรวจจะเชิญตัวมาสอบสวนอีกครั้งว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุหรือไม่

เหตุการณ์นี้ ทั้งตำรวจ ผู้เสียหาย และเจ้าของร้านทอง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบังเอิญจนน่าเหลือเชื่อ  และแทบเกิดขึ้นได้ยากที่ทั้งคนร้ายและผู้เสียหายมาพบกันในร้านทองเดียวกัน และเวลาเดียวกัน เพราะร้านทองในหาด มีเป็นร้อยแห่ง หากคนร้ายพาไปขายที่อื่นก็ไม่มีใครจับได้ หรือถ้ามาที่ร้านทองแห่งนี้คนละเวลากันก็จะไม่เจอกับเจ้าของและอาจจะขายทองได้เงินไปใช้ง่ายกว่านี้จึงเรียกได้ว่ากรรมตามทัน.