posttoday

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวันปลอมเบอร์หน่วยงานรัฐหลอกเหยื่อโอนเงิน

12 ตุลาคม 2560

ตำรวจภูธรภาค 3 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเบอร์หน่วยงานรัฐ โทรข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน พบ 3 เดือนมูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

ตำรวจภูธรภาค 3 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเบอร์หน่วยงานรัฐ โทรข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน พบ 3 เดือนมูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค3 ต.จอหอ อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3,พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รักษาการผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3  ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวจีนไต้หวัน จำนวน 3 คน ขณะกำลังกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ในห้างสรรพสินค้าพาลิโอ ที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯจากนั้นได้ขยายผลเข้าจับกุม ผู้ต้องหาร่วมขบวนการได้อีก 1 คนที่ ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ เช่น บัตรกดเงินอิเลคทรอนิกส์ (ATM) จำนวน 13 ใบ เงินสดธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 459,000 บาท ,สมุดบัญชีธนาคารต่างๆและสลิปโอนเงินผ่านธนาคารๆอีกรวม 15 รายการ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการรับสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสดของผู้อื่นโดยมิชอบ

พฤติกรรมของแก๊งคอลเซนเตอร์ มีการร่วมกันก่อเหตุระหว่างชาวจีนไต้หวันกับชาวไทยที่ไปอาศัยอยู่ในประเทศไต้หวัน โดยจะร่วมกันใช้เบอร์โทรศัพท์ปลอมเป็นหมายเลขของหน่วยงานต่างๆ อาทิ ปปง.,ปปช.ปปส.,ดีเอสไอ,ธนาคารต่างๆรวมถึงไปรษณีย์ไทย เพื่อโทรเข้ามาเหยื่อก่อนที่กลุ่มคนร้ายที่เป็นคนไทยซึ่งอาศัยอยู่ในไต้หวัน จะพูดข่มขู่เหยื่อให้โอนเงิน โดยอ้างว่าเหยื่อกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มคนร้ายจะว่าจ้างคนไทยในจังหวัดต่างๆในราคารายละ 8,000 บาท เพื่อเปิดบัญชีธนาคารไว้รับโอนเงิน จากนั้นกลุ่มคนร้ายที่เป็นชาวจีนไต้หวันซึ่งเดินทางเข้ามาในไทยในฐานะนักท่องเที่ยวจะตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พบว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงินมูลค่ารวมมากกว่า 10 ล้านบาท จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอย่าตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซนเตอร์ดังกล่าว