ผมไม่ได้ข่มขืนต้องมาขอคืนความเป็นธรรม

ชลบุรี-แพะรับบาปคดีข่มขืนสาวเดนมาร์กในไร่มันสำปะร้องสื่อขอความเป็นธรรมเผยชีวิตครอบครัวพังนินาศไร้หน่วยงานดูแล

นายบรรเลง ฮวดเจริญ หรืออาร์ต อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/3 บ้านมาบฟักทอง ม.11 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร้องเรียนว่า เมื่อวันที่27ก.ย.57 เกิดเหตุคนร้ายล่อลวงนักท่องเที่ยวชาวเดนมาร์ก อายุ23ปี  ไปข่มขืนกระทำชำเราในไร่มันสำปะหลังในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยใหญ่ได้จับกุมทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด และถูกนำไปกักขังในเรือนจำ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยใหญ่ สามารถจับคนร้ายตัวจริงได้ คือ นายไตรรงค์ กลัดแก้ว อายุ 30 ปี ชาว ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ แต่กลับไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายหรือคำขอโทษใดๆจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 20,000 บาท แต่ก็ไม่ได้ตกลงรับเงิน เนื่องจากอยากให้แถลงข่าวและชี้แจงว่าไม่ใช่คนร้ายในคดีนี้แต่ภายหลังเรื่องก็เงียบหายไปและไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกเลย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันครอบครัวได้พยายามร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังศูนย์ร้องเรียนต่างๆ อาทิ ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงยุตธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องกลับเงียบไป และไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใด หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก ไม่สามารถสมัครที่ไหนได้รวมทั้งครอบครัวญาติพี่น้องไม่สามารถทำงานที่ไหนได้อีก เนื่องจากชื่อ – นามสกุล ยังปรากฏอยู่ในสื่อทั่วประเทศ จึงไม่มีผู้ประกอบการใดอยากร่วมงานด้วย อีกทั้งไม่สามารถทำบัตรประชาชน และไม่สามารถแจ้งเกิดให้บุตรได้อีกด้วย เพราะตกเป็นแพะรับบาปในสิ่งที่ไม่ได้เป็นคนกระทำ จึงอยากขอจุดยืนในสังคมและครอบครัวได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกครั้ง

"อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเข้ามาขอโทษ และชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้ชีวิตตนและครอบครัวพังพินาศ"นายบรรเลง

ด้านพ.ต.อ.อนันต์  ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นในชุดจับกุมที่มีพ.ต.อ.กำพล  ลีลาประภาภรณ์ เป็นผู้กำการหัวหน้าสถานีในขณะนั้น แต่ด้วยเป็นหัวหน้าสถานีคนใหม่จึงไม่ทราบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจะประสานผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป.