posttoday

ตร.เร่งสอบเหตุพลทหารดับปริศนา สิบเวรยันไม่มีการลงโทษรุนแรง

21 สิงหาคม 2560

ตำรวจสอบปากคำ 2 รุ่นพี่นำพลทหารทาโร่มาส่งบ้านก่อนเสียวิต ขณะที่ "สิบเวร"ไม่มีการลงโทษที่รุนแรง พร้อมเผยภาพวงจรปิดก่อนออกจากค่าย

ตำรวจสอบปากคำ 2 รุ่นพี่นำพลทหารทาโร่มาส่งบ้านก่อนเสียวิต ขณะที่ "สิบเวร"ไม่มีการลงโทษที่รุนแรง พร้อมเผยภาพวงจรปิดก่อนออกจากค่าย

ความคืบหน้ากรณีนางมาลัยภรณ์ วรกิจพันธ์ แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า พลทหารนภดล วรกิจพันธ์ หรือ ทาโร่ อายุ 21 ปี บุตรชายซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่(มทบ.)45 ค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ถูกทำร้ายจนมาเสียชีวิตที่บ้านพัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.ผ่านมา พ.ต.ท.ลิขิต ชุมช่วย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เดินทางไปยังกองร้อยมณฑลทหารบกที่45(มทบ.45) เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามคำให้การของพลทหารปริญญา ราชจินต์ และพลทหารชัยฤกษ์ อัครกุล ซึ่งเป็นผู้ที่นำพลทหารนภดลมาส่งที่บ้านพักก่อนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 19 ส.ค.60เวลาประมาณ 21.00 น.

จากการตรวจสอบพบว่า ในภาพวงจรปิดเมื่อเวลา 20.58 น. ปรากฏภาพวงจรปิดจับภาพพลทหารนภดล สวมชุดลำลองทหาร กับพลทหารชัยฤกษ์ ซึ่งเป็นพลทหารรุ่นพี่นั่งอยู่ที่เวรยามประจำคลังอาวุธ โดยทั้งคู่นั่งอยู่นานกว่า 14 นาที หลังจากนั้นได้พากันเดินออกไปจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การที่ระบุว่าพลทหารทั้ง 2 นายและผู้เสียชีวิตได้ชักชวนออกจากค่ายจริง โดยพลทหารปริญญาเป็นผู้ไปรับรถจักรยานยนต์จากพี่สาวที่นำมาจอดทิ้งไว้ข้างค่ายวิภาวดีรังสิตแล้วขับกลับมารับทั้ง 2 นายออกจากจุดเวรยามประจำคลังอาวุธ ก่อนพากันไปที่บ้านพักของพลทหารนภดลเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และจะไปงานโชว์รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี แต่เสียชีวิตก่อน

ส.ท.ธนกร ศรีสุข สิบเวร กองร้อย มทบ.45 กล่าวว่า ได้เข้าเวรตั้งแต่เวลา 09.00 น.วันที่ 19 ส.ค.และออกเวรเวลา 09.00 น.วันที่ 20 ส.ค.ซึ่งวันที่ 19 ส.ค.พลทหารนพดล ได้ขอลาแบบ 24 ชั่งโมง และญาติได้มาส่งเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 19 ส.ค. ซึ่งหลังจากนั้นเวลา 19.00 น.ได้เรียกรวมเพื่อตรวจสอบจำนวนและอบรมประมาณ 15 นาที โดยเรียกรวมอีกครั้งในเวลา 20.45 น.ร่วมทำกิจวัตรทางศาสนา และตรวจสอบจำนวนอีกครั้งก่อนแยกย้ายขึ้นโรงนอนและส่งสัญญาณเข้านอนเวลา 21.00 น.

"ขณะรวมแถวสวดมนต์พลทหารทั้งหมดยังอยู่ครบ และตลอดเวลาที่เข้าเวรอยู่ไม่ได้มีการซ่อมหรือลงโทษกับพลทหารที่รุนแรง มีเพียงแค่การดันพื้นหรือยึดพื้นและให้ลุกนั่ง ประมาณ 10 นาที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องการฝึกตามปกติของทหาร"ส.ท.ธนกร กล่าว

พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ผู้ควบคุมการสอบสวน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนติดตามพยานมาสอบปากคำถึงเหตุการณ์หลังจากที่พลทหารนภดลแยกกับครอบครัวหลังเสร็จงานทำบุญในช่วงกลางวันวันที่ 19 ส.ค.60 ว่า ได้เดินทางไปยังที่ใดบ้างก่อนกลับเข้าค่ายทหารเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน ซึ่งการสอบสวนปากคำพยานจะมีการเชิญญาติผู้เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังด้วยทุกขั้นตอน เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

"จากการสอบสวนในเบื้องต้นพลทหารทั้ง 2 นายให้การว่า ได้นัดแนะออกจากค่ายทหารเพื่อจะเดินทางไปงานรถบิ๊กไบค์ที่ อ.ท่าชนะ โดยในช่วงเวลา 21.00 น.ได้พาผู้เสียชีวิตไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านพักก่อนที่จะเห็นว่าหายเข้าไปในห้องนานจึงเข้าไปดูพบว่าหมดสติจึงได้ช่วยกับญาติปั๊มหัวใจและนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงและส่งศพพลทหารนภดลไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช กรุงเทพฯ "พ.ต.อ.วิชอบ กล่าว

ด้าน พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 (ผบ.มทบ.45) กล่าวว่า พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากพลทหารนภดลเสียชีวิตจากการถูกซ่อมหรือถูกซ้อมภายในค่ายทหารจริง จะต้องหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องรอผลชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดและการสอบสวนของตำรวจอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.นางมาลัยภรณ์ มารดาและญาติได้นำศพพลทหารนภดล ไปประกอบพิธีที่ศาลา 3 วัดโพธิ์นิมิต ต.บางกุ้ง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี พร้อมนำรถจักรยานยนต์คู่ใจมาจอดไว้ที่ข้างศพ จากนั้นได้นำบรรจุใส่โลงโดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีมารับศพขึ้นรถยนต์ไปส่งตรวจที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯในวันที่ 21 ส.ค.

ตร.เร่งสอบเหตุพลทหารดับปริศนา สิบเวรยันไม่มีการลงโทษรุนแรง