posttoday

หัวอกพ่อ! ไม่คาดคิดลูกเป็นโจรปล้นเต็นท์รถทำคาร์บอมบ์

19 สิงหาคม 2560

บิดา "นูร์ฮาซัน" เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดมาก่อนลูกชายจะเลือกเส้นทางใช้ความรุนแรงระบุที่ผ่านมาลูกชายพยายามศึกษาจนจบปริญญาตรีด้วยลำแข้งมาตลอด เพื่อหวังอนาคตที่ดีขึ้นและเป็นว่าที่โต๊ะคอเต็บ

บิดา "นูร์ฮาซัน" เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดมาก่อนลูกชายจะเลือกเส้นทางใช้ความรุนแรงระบุที่ผ่านมาลูกชายพยายามศึกษาจนจบปริญญาตรีด้วยลำแข้งมาตลอด เพื่อหวังอนาคตที่ดีขึ้นและเป็นว่าที่โต๊ะคอเต็บ

เมื่อวันที่ 19สค.60 จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายครั้งเป็นการกระทำจากคนในพื้นที่ โดยเฉพาะเยาวชนถูกเลือกเป็นเป้าหมายของการใช้เพื่อก่อความไม่สงบ ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก และยาวนานมา10กว่าปี ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบเมื่อไร อย่างไร ถึงแม้หลายฝ่ายที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงมักจะยอมรับว่าปัญหาสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง จนทำให้สถิติการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ลดลงได้ในระดับที่หน้าพอใจ อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์รุนแรงที่ผ่านมามักมีเยาวชนในพื้นที่เกี่ยวข้องและตกเป็นผู้ต้องหาและเสียชีวิตจากการวิสามัญของเจ้าหน้าที่รัฐ จากเหตุปะทะในหลายกรณี โดยที่ผู้ปกครองพ่อแม่ ญาติ ไม่เคยรู้มาก่อนถึงพฤติกรรมของลูกว่าได้เลือกเส้นทางที่ใช้ความรุนแรง สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก บางคนถูกจับกุมดำเนินคดี บางคนก็ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญจนเสียชีวิต

จากกรณีเมื่อ16 ส.ค. 2560 เวลา 04.30น. คนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ ได้ปล้นแย่งชิงรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า รุ่นธันเดอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส เหตุเกิดในพื้นที่  อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี  พร้อมกับได้จับตัว 2 สามีภรรยาไว้ และปล่อยตัวในเวลา 14.00น. โดยไม่ถูกทำร้าย แต่อย่างใด และต่อมาเวลาประมาณ 11.30น. คนร้ายได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปก่อเหตุปล้นรถยนต์จากเต็นท์รถ”วังโต้คาร์เซ็นเตอร์”  อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา จำนวน 6 คัน พร้อมจับเจ้าของเต็นท์รถและพนักงานไปด้วย รวม 4 คน และต่อมาภายหลังได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายสหรัฐ แหละหนิ๊ อายุ 19 ปี, ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายประธานพร  นวลละมุน อายุ 23 ปี และไม่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ประกอบด้วย 1. นายธานีศักดิ์  ยี่จีน อายุ 53 ปี และ 2. นายจิรศักดิ์  รัตนพันธ์ อายุ 37 ปี

ต่อมาได้เกิดการปะทะบริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง เป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย และตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด9ม.ม.ได้ 1 กระบอก  คือนายนูร์อาซัน  อาแว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 บ้านแบรอจะรัง หมู่ 2 ตำบลตะลุโบ๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี  สามารถตรวจพบรถยนต์ที่ถูกปล้นแย่งชิงจากเต็นท์ไปแล้ว จำนวน 6 คัน และรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นธันเดอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บง8378 นราธิวาสได้คืนมาอีก1คันหลังจากคนร้ายนำไปจอดทิ้งไว้ในสวนยางชาวบ้านในพื้นที่ ต.จะแหน อ.สบ้าย้อย จ.สงขลา

จากเหตุการณ์ปล้นรถยนต์ภายในเต็นท์จำหน่ายรถมือสองของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ แล้วนำบรรจุระเบิดถังแก๊สพร้อมบรรจุน้ำมันในแกลลอน แล้วกลับเข้ามาในพื้นที่จังหวัดปัตตานีหวังเพื่อก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ จนเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์จำนวน2คัน และสามารถยิงสกัดรถยนต์ที่บรรจุระเบิดได้อีก 1 คันและทำการเก็บกู้ระเบิดได้สำเร็จ นับเป็นความสำเร็จที่ทุกฝ่ายได้ร่วมมืออย่างเต็มที่ จึงสามารถลดและป้องกันความสูญเสียได้ไม่น้อย

หัวอกพ่อ! ไม่คาดคิดลูกเป็นโจรปล้นเต็นท์รถทำคาร์บอมบ์

 

ด้านนายมารูดิง อาแว บิดาของนายนูร์ฮาซัน อาแว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ารู้สึก เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าลูกจะเลือกใช้วิธีรุนแรง เพราะที่ผ่านมาลูกไม่เคย เกเร มุ่งแต่เรียนทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเองและใช้เป็นค่าเล่าเรียนจนจบปริญญาตรีด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่เคยรบกวนพ่อแม่

บิดา นูร์ฮาซัน กล่าวอีกว่า ลูกชายชอบเรียนหนังสือทั้งสายศาสนาและสายสามัญ เริ่มแรกหลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่6 ได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมศึกษาจนขบศาสนาชั้น10 และสามัญมัธยมปีที่6 จากนั้นได้เข้าเรียนต่อชั้น11จนถึงชั้นที่13 อาลียะห์เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยชุมชน(วชช.)จนจบอนุปริญญาแล้วเข้าไปศึกษาต่อภาคพิเศษมหาวิทยาลัยราชนครินทร์นราธิวาส(มนร.)จนจบในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันลูกชายได้ทำงานที่โรงเรียนดารุลมะอาเรฟที่สำนักงานคณะกรรมการหลังเก่าดูแลในเรื่องบัญชี นอกจากนั้นยังอาสาเป็นครูสมทบที่โรงเรียนเตรียมศึกษา และเป็นครูสอนตาดีกาที่มัสยิดในหมู่บ้าน ทุกวันศุกร์ลูกชายก็จะขึ้นบรรยายธรรมหรืออ่านคุตบะห์ก่อนละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดในหมู่บ้านน้ำเสียงดีจนสามารถโน้มน้าวจิตใจชาวบ้านได้ดี ทำให้เป็นที่รักของคนในพื้นที่ด้วยดี ไม่คาดคิดมาก่อนว่าลูกชายจะเลือกเส้นทางนี้ ปกติเป็นคนที่เข้ากับเพื่อนได้ดี ชอบอ่อนน้อม ไม่ดุดัน จนชาวบ้านเรียกร้องให้ขึ้นตำแหน่งเป็นคอเต็บประจำมัสยิดในหมู่บ้านและคาดหวังต่อตัวเขามาก นอกเหนือจากรับทำหน้าที่ดังกล่าวแล้วนายนูร์ฮาซัน ยังร่วมกับเพื่อน เลี้ยงและรับซื้อขายปลาทับทิม ไปส่งขายต่อที่สะพานปลา

ทั้งนี้ นายนูร์ฮาซัน เป็นคนไม่ชอบแต่งกางเกงยีนส์ ชอบนุ่งโสร่งเสื้อแขนยาวสวมหมวกกะปิเยาะห์และหมวกแข็งสีดำ ไม่เพียงแค่ไม่ชอบยังห้ามไม่ให้น้องสาวสวมแต่งกางเกงยีนส์ โดยเฉพาะหมวกแก๊ป เพราะเขาจะถูกเรียกว่าเป็นครูหรืออุสตาสซึ่งในสังคมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถ้าอุสตาสหรือครูสอนศาสนาคนไหนสวมหมวกแก๊ป ก็จะถูกสังคมปฏิเสธทันที ไม่นับถือของคนทั่วไป แต่สิ่งที่ปรากฏในภาพลูกชายเสียชีวิตในสภาพที่แต่งกางเกงยีนส์สีดำแล้วสวมกางเกงวอร์มสีดำทับอีกชั้นและยังสวมหมวกแก๊ปสีดำบนหัว จึงทำให้ครอบครัวรับไม่ได้และคิดว่าลูกชายต้องถูกใครบงการและบังคับใช้ให้ทำอย่างแน่นอน เพราะจากการสังเกตภายในห้องของส่วนตัวของลูกชายได้มีการรวบรวมเอกสารสำคัญ บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทยมีเงินสดประมาณ3หมื่นบาท บัตรATM 2ใบ นาฬิกาข้อมือ แหวนนาค กุญแจจำนวน9ดอก โทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน 1เครื่อง และเอกสารหนังสืออ่านที่สำคัญถูกเก็บไว้รวมในถุงผ้า เหมือนกับรู้ตัวเองว่ากำลังจะไปไหน แล้วไม่หวังที่จะกลับ จึงทำให้พ่อแม่เสียใจ เพราะไม่เคยรู้มาก่อน จนกระทั่งมีคนมาแจ้งข่าวเมื่อช่วงเวลาค่ำของวันเกิดเหตุ จึงถึงรับรู้กับสิ่งที่ได้กล่าวไว้ขั้นต้น และทุกอย่างถูกเจ้าหน้าที่ยึดไว้ตรวจสอบ พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอ125 สีดำทอง อีก1คัน ในค่ำคืนเดียวกันกับตนเองกับลูกชาย ซึ่งเป็นพี่ชายนายนูร์ฮาซันไปรับศพที่โรงพยาบาลอำเภอหนองจิก กว่าจะได้นำศพลูกกลับมาบ้านล่วงเวลาเกือบเที่ยงคืน และได้ประกอบพิธีทางศาสนาคืออาบน้ำศพ กาปันหรือห่อศพจากนั้นพาไปที่มัสยิดใกล้บ้านเพื่อทำละหมาดศพก่อนนำไปฝังในกูโบร์สุสานภายในหมู่บ้าน

บิดา นูร์ฮาซัน กล่าวอีกว่า ชั่วโมงสุดท้ายที่เห็นหน้าและได้คุยกับลูกก่อนที่ลูกจะจากพ่อแม่ไปอย่างไม่หวนกลับอีกคือ วันพุธเวลาประมาณ 16.00น. ลูกชายบอกว่าจะไปรับซื้อปลาลูกค้า แล้วจะไปส่งต่อที่สะพานปลา หลังจากนั้นเมื่อเวลาประมาณ17.00น.ลูกชายก็ได้กลับมาบ้านอีกครั้ง จนกระทั่งมีคนแจ้งมาว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วให้ไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองจิก บอกได้ว่าตอนนั้นไม่รู้จะทำไงบอกไม่ถูกตกใจมาก

ส่วนบรรยากาศที่บ้านของนายนูร์ฮาซันนั้นได้มีเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้องและเพื่อนได้เดินทางมาเยี่ยมเป็นจำนวนมาก เพราะเขายังเป็นคนดีในสายตาของประชาชน เพราะเขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานสังคมมายาวนาน มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีจึงทำให้มีผู้หลั่งไหลมาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย