posttoday

แม่ลูกสามพลเมืองดีช่วยเหลือคนเจ็บจยย.ล้มถูกกระบะชนเสียชีวิต

12 สิงหาคม 2560

ฉะเชิงเทรา-แม่ลูกสามพลเมืองดีลงไปช่วยรถจยย.ล้มขวางถนนถูกกระบะชนเสียชีวิตขณะที่สามีผู้ตายเปิดใจฝ่ายหญิงเป็นคนดีเห็นคนเจ็บแล้วไม่ช่วยเหลือไม่ได้

ฉะเชิงเทรา-แม่ลูกสามพลเมืองดีลงไปช่วยรถจยย.ล้มขวางถนนถูกกระบะชนเสียชีวิตขณะที่สามีผู้ตายเปิดใจฝ่ายหญิงเป็นคนดีเห็นคนเจ็บแล้วไม่ช่วยเหลือไม่ได้

วันที่ 12 ส.ค.60 นายนิพล วรวิสันต์ อายุ 28 ปี ผู้สูญเสียภรรยาคือนางวิภาวรรณ วรวิสันต์ อายุ 32 ปีพลเมืองดีขณะลงไปให้ความช่วยเหลือรถจักรยายนต์ล้มขวางถนนในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ พื้นที่ ม.7 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา แต่ถูกรถยนต์กระบะขับแซงซ้ายมาด้วยความเร็ว ก่อนหักเข้าเลยขวา พุ่งเข้าชนจนเสียชีวิต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุกำลังจะนำข้าวกล่องไปส่งให้แก่คนในโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุพบเห็นรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ และมีคนเจ็บนอนอยู่ที่กลางถนนจึงได้จอดรถยนต์เก๋งส่วนตัวแอบเข้าข้างทางพร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉิน (ผ่าหมาก) เอาไว้ ก่อนที่จะเดินลงไปช่วยเหลือโดยได้ทำหน้าที่เป็นคนยกรถขึ้นมา แล้วลากจูงเข้าไปแอบเอาไว้ยังที่ข้างทาง ส่วนภรรยาได้เดินเข้าไปดูแลช่วยเหลือคนเจ็บ พร้อมกันกับ นายณัชพล พรหมนา อายุ 25 ปี อาสากู้ภัยพนมสารคามอีกหนึ่งคน จากนั้นจึงได้มีรถยนต์กระบะขับพุ่งเข้ามาชนกวาดไปหมดทั้งสามคน ส่วนรอดชีวิตมาได้เพราะกำลังนำเอารถเข้าไปเก็บแอบไว้ริมทางอยู่พอดี

เมื่อถามว่าวันเกิดเหตุคิดอะไรอยู่จึงได้ลงเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บที่รถล้มอยู่กลางถนน หนุ่มพลเมืองดีบอกว่า เมื่อเห็นมีคนเจ็บนอนอยู่กลาง เราจะไม่ช่วยก็ไม่ใช่ เราต้องช่วย จะปล่อยให้นอนเจ็บอยู่ตรงนั้นก็คงไม่ได้ เราต้องช่วยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่าจะบอกกับคนในสังคมอย่างไร หากไปประสบกับเหตุการณ์แบบนี้ก็ยังคงจะต้องเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บอีก แต่อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น

"ผมแต่งงานอยู่กินด้วยกันมาแล้ว 5 ปี จนมีบุตรสาวอายุ 2 ขวบ 10 เดือน บุตรชายอายุ 1 ขวบ 8 เดือน และบุตรชายที่เป็นลูกติดมาจากสามีเก่าอายุ 10 ปี ปกติภรรยาเป็นคนมีจิตใจดี ใจเย็นและมีเหตุผล และเป็นผู้หญิงที่หาไม่ได้อีกแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดความสูญเสียขึ้นนี้ พลาดตรงที่ได้ให้แฟนเข้าช่วยคนเจ็บ และไปยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าไปช่วยด้วยตนเอง มัวแต่ไปจูงรถออกจากที่เกิดเหตุ แต่เราก็ได้ดูรถกันดีแล้วว่าในขณะนั้นไม่มีรถอะไรวิ่งมาบนถนน และก็ไม่คิดว่าคนขับรถกระบะที่ชนจะขับรถมาด้วยความเร็วขนาดนี้ จึงทำให้ตนและภรรยา รวมถึงอาสากู้ภัยฯ นั้นตั้งหลักกันได้ไม่ทัน 

ส่วนลูกๆยังคงไม่รู้เรื่องว่าแม่ได้จากไปแล้ว เพียงแต่ถามถึงว่าแม่อยู่ไหนเท่านั้นก็ได้แต่ตอบแก่ลูกได้แต่เพียงว่า “แม่ได้ไปสวรรค์แล้ว กลับมาหาหนูอีกไม่ได้แล้ว” ก็ตอบลูกได้แต่เพียงเท่านี้ ซึ่งตนและแม่ของตน (ย่า) ก็คงต้องเลี้ยงดูพวกเขาแทนผู้เป็นแม่ของลูกๆ ต่อไปให้ดีที่สุด นายนิพลกล่าว