posttoday

ลูกหนี้โวยถูกโกงแชร์คดีไม่คืบ-ตำรวจแจงใกล้สรุปสำนวนฟ้อง

09 สิงหาคม 2560

นครราชสีมา-ผู้เสียหายถูกโกงแชร์ทางเฟซบุ๊กสูญเงินกว่า3ล้านบาทร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยติดตามคดีขณะที่ตำรวจชี้แจงสำนวนการสอบสวนใกล้ส่งฟ้องอัยการแล้ว

นครราชสีมา-ผู้เสียหายถูกโกงแชร์ทางเฟซบุ๊กสูญเงินกว่า3ล้านบาทร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยติดตามคดีขณะที่ตำรวจชี้แจงสำนวนการสอบสวนใกล้ส่งฟ้องอัยการแล้ว

เมื่อวันที่9ส.ค.60 เวลา 11.00น.ผู้เสียหายจำนวน3คน ถูกหลอกให้เล่นแชร์ผ่านเฟซบุ๊ก  เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมนครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่ได้ร้องเรียนตั้งแต่เมื่อวันที่15ก.ค.60ว่า น.ส.บี(นาสมมติ)อายุ26ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งในอ.เมืองนครราชสีมา เปิดเฟซบุ๊ก ชื่อ  Money_Bee ออมเงิน ให้ประชาชนมาร่วมลงเงินเล่นแชร์ อ้างว่าจะให้ดอกเบี้ยมากถึงร้อยละ10ในรอบ5วัน ทำให้มีผู้หลงเชื่อแห่ร่วมลงทุนมากกว่า40ราย ก่อนที่จะถูกเบี้่ยวเงินทั้งต้นและดอกเบี้ย สูญเงินกว่า 3ล้านบาทมีผู้เสียหายจำนวน7คน ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา

หนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางไปร้องเรียน เปิดเผยว่า ได้ลงทุนไปทั้งหมดกว่า 200,000 บาท ช่วงแรกก็ได้เงินดี แต่มาช่วงปลายเดือนเม.ย. น.ส.บีกลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย โดยอ้างว่านายทุนมีปัญหาด้านการเงิน แต่รับรองว่าจะทยอยจ่ายเงินชดใช้ให้ในภายหลัง จากนั้นได้สอบถามไปหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เมื่อไปสืบค้นในเฟซบุ๊ก ก็พบว่าน.ส.บี ได้อัพรูปพาครอบครัว และลูกน้องไปเที่ยวสถานที่หรูหรา คืนละหลายหมื่นบาท นำเงินไปตกแต่งร้านก๋วยเตี๋ยวสาขา 2 ที่ตลาดบิ๊กบ๊อกและใช้จ่ายหนี้สินส่วนตัวกับสามี จึงมั่นใจว่า น.ส.บี ไม่ได้มีนายทุนรับประกันจ่ายหนี้สินให้แน่นอน เพียงแต่อ้างลอยๆเพื่อหลอกลวงให้และเพื่อนๆ หลงเชื่อ นำเงินมาลงทุน เพื่อนำเงินไปหมุนเวียนใช้ในธุรกิจส่วนตัว แต่จนถึงขณะนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบ 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ทราบแต่เพียงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำแล้วแต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้ออกหมายจับจึงได้มาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ช่วยเร่งรัดคดีนี้เพราะมีมูลค่าเงินที่เสียหายก็สูงกว่า 3 ล้านบาท

ด้านพ.ต.ท.ประหยัด ฟุงสูงเนิน ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานสอบสวนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการโทรศัพท์สอบถาม สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะนี้ได้รับการยืนยันว่าได้สรุปสำนวนสอบสวนคดีนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอส่งอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาสัปดาห์หน้า แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความล่าช้าเช่นนี้ เนื่องจากการตรวจสอบบัญชีทางการเงินจากธนาคารต่างๆ มีหลายขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เพิ่งจะได้รับข้อมูลการตรวจสอบบัญชีทางการเงินในสัปดาห์นี้ ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ทราบเรื่องแล้ว และสั่งการให้เร่งรัดคดี เนื่องจากปกติการทำสำนวนคดีจะไม่ให้เกิน 2 เดือน จึงขอให้ผู้เสียหายสบายใจได้ว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว.