ปศุสัตว์แจงหนุ่มไถ่ชีวิตควายยังไม่ทราบชะตากรรมบุญรอด

เพชรบูรณ์-หนุ่มไถ่ชีวิตควายขอคำชี้แจงจากปศุสัตว์เขาค้อกลับได้รับคำตอบว่ายังไม่ทราบชะตากรรมบุญรอด

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.60 นายรพีภัค ธราธรพิทักษ์ ผู้ไถ่ชีวิตควายบุญรอด และนางณัฐธยาน์ พลหาญ ทองลงยา ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์โคกระบือไทยเดินทางไปที่ทำการปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ เพื่อฟังคำชี้แจง กรณีนำบุญรอดคลายตัวเมียมาฝากไว้ต่อมาเกษตรกรในโครงการธนาคารโคกระบือรับไปเลี้ยงดู และได้ขายให้แก่พ่อค้าจร ล่าสุดยังไม่ทราบชะตากรรม

นายจีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ ปศุสัตว์เขต 6 ชี้แจงว่าได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยกรมปศุสัตว์ได้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับเกษตรกรรายนี้ กระทั่งศาลมีคำพิพากษาจำคุกนายวรพล แก้วแดง เกษตรกร 1 เดือนโดยไม่รอลงอาญา และมีโทษปรับอีก 35,000 บาท นายวรพลได้ขอประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์

จากนั้นนายรพีภัคและนางรัฐธยาน์จี้ถามถึงการมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์คล้ายกรณีควายบุญรอดขึ้นอีก และยังถามถึงการติดตามควายบุญรอดหลังถูกขายให้พ่อค้าจรไป ซึ่งปศุสัตว์จังหวัดจังหวัดชี้แจงว่า มีคำสั่งให้ตรวจสอบทั้งจังหวัดแล้ว

นายสมภาร จิตนันท์ ปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ ยอมรับว่าไม่สามารถติดต่อพ่อค้าจรรายนี้ได้จึงไม่รู้ว่าบุญรอดจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และขอปฎิเสธเรื่องให้ข้อมูลเท็จและเขียนแผนที่หลอกให้นายรพีภัคไปติดตามควายบุญรอด กระทั่งเกิดการโต้แย้งกันขึ้น จนนายรพีภัคอ้างอิงถึงพยานบุคคลที่อยู่ในห้องประชุมเพื่อยืนยัน ทำให้นายสมภารถึงกับนิ่งเงียบ การประชุมใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงจึงยุติ

นางณัฐธยาน์ยังแจ้งที่ประชุมด้วยว่า ทางมูลนิธิฯยินดีมอบเงินให้ 1 แสนให้กับคนที่ชี้เบาะแสหรือติดตามควายบุญรอดจนพบ พร้อมระบุว่า การชี้แจงวันนี้ไม่ได้มีการยอมรับอะไร ซึ่งแต่ละคนพูดโยนกันไปมาและข้อมูลก็ขัดแย้งไม่ตรงกัน ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯจะมีกี่ชุดก็ตาม แต่จะมีข้าราชการในหน่วยเดียวกันซ้ำซ้อนกันอยู่ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางมูลนิธิฯมองว่าควายบุญรอดคงไม่ใช่ตัวแรกและตัวสุดท้ายแน่นอน และเท่าที่มีข้อมูลก็พบว่าหลายจังหวัดก็มีปัญหาเช่นกัน

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับคณะนางณัฐธยาน์ได้เดินทางไปที่ศาลพระภูมิบริเวณหน้าสำน้กงานปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ เพื่อบนบานขอให้ควายบุญรอดมีชีวิตรอดจากการฆ่าเป็นครั้งที่ 2