posttoday

ยึดคืนป่าชายเลนตรัง หลังถูกนายทุนรุกปลูปปาลืมเกือบ 160 ไร่

02 กรกฎาคม 2560

เจ้าหน้าที่ยึดคืนป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่ ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังถูกนายทุนบุกรุกปลูกปาล์มเกือบ 160 ไร่

เจ้าหน้าที่ยึดคืนป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่ ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังถูกนายทุนบุกรุกปลูกปาล์มเกือบ 160 ไร่

เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่บริเวณโครงการป่าชายเลนชุมชนบ้านหัวควน ม.5 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง  นายสุพัฒน์ บุษบงก์ไพฑูรย์ หน.ชุดปฎิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าชายฝั่งและป่าชายเลน สังกัดสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะเหลียน เจ้าหน้าที่ สบทช.7 เจ้าหน้าที่ป่าชายเลน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ปะเหลียน รวมจำนวน 60 นาย  ร่วมกันปฎิบัติการทวงคืนผืนป่าเนื้อที่ 159.98 ไร่ จากพื้นที่ป่าทั้งหมด 800 ไร่  ซึ่งเป็นป่าชายเลนที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของ จ.ตรัง

สำหรับบริเวณป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ถูกบุกรุกในครั้งนี้ อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนั่งเรือหางยาวเข้าไป  โดยพบว่าพื้นที่ถูกบุกรุกเข้าไปปลูกปาล์มน้ำมันมันมานานเกือบ 10 ปีแล้ว  มีต้นปาล์มน้ำมันถูกปลูกไว้หลายร้อยต้น อายุ 8-10 ปี และยังพบรอยล้อรถไถที่ที่คาดว่าใช้ในการวิ่งขนผลปาล์มเข้าออก นอกจากนี้ ยังพบกระท่อมไม้ยกพื้นสูงปลูกสร้างขึ้นภายในพื้นที่ป่าชายเลนดังกล่าวด้วย แต่ไม่พบตัวผู้กระทำความผิดอย่างใด  เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

นายสุพัฒน์ กล่าวว่า  การปฎิบัติลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ที่ได้มีการตั้งเป้าหมายทวงคืนผืนป่าในพื้นที่ จ.ตรัง รวมจำนวน 982.55 ไร่  โดยนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2560 เป็นต้นมา สามารถดำเนินการทวงคืนผืนป่าได้แล้ว 722.53 ไร่ คิดเป็น 73.54 %  และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในสิ้นปีงบประมาณ 2560 นี้

สำหรับพื้นที่ที่ถูกบุกรุกส่วนใหญ่ถูกปรับเป็นสวนปาล์มน้ำมัน ยางพารา และบ่อกุ้ง โดยจากการยึดคืนยังไม่พบว่ามีการบุกรุกซ้ำหรือเพิ่มเติม  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ เป็นความผิดซึ่งหน้า  ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจสอบพยานหลักฐาน และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เพียงไม่กี่ราย  แต่หากเทียบกับปริมาณพื้นป่าที่ถูกบุกรุกแล้วยังถือว่าน้อยมาก  ส่วนป่าที่ยึดคืนมาได้จะมีการปิดป้ายเพื่อให้ผู้ที่มีเอกสารครอบครองมาแสดงตัวภายใน 15 วัน  และหากไม่มีผู้แสดงตัว ก็จะดำเนินการทำลายสินทรัพย์เพื่อคืนสภาพป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป