posttoday

จบด้วยดี! เจ้าบ่าวยกขันหมากหนียินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ฝ่ายเจ้าสาว

25 มิถุนายน 2560

เจ้าบ่าวหอบสินสอดกลับกลางงานแต่ง ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ฝ่ายเจ้าสาว พร้อมเตรียมจัดงานแต่งใหม่ พ่อเผยเหตุจากญาติอารมณ์ร้อนทั้งสองฝ่าย

เจ้าบ่าวหอบสินสอดกลับกลางงานแต่ง ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ฝ่ายเจ้าสาว พร้อมเตรียมจัดงานแต่งใหม่ พ่อเผยเหตุจากญาติอารมณ์ร้อนทั้งสองฝ่าย

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักแห่งหนึ่ง ในบ้านพุทรา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา  เพื่อติดตามกรณีที่เจ้าบ่าวหอบขันหมากกลับกลางแต่งงานและฝ่ายเจ้าสาวได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 24มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศที่บ้านมีญาติๆ ของฝ่ายเจ้าสาวกำลังเก็บของที่ยืมและเช่ามาจัดงานแต่งงานภายในบริเวณบ้าน   ส่วนเจ้าสาวได้เดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯแล้วตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันนี้ 25 มิ.ย.

ด้าน นายบุญสวน วารีศรี อายุ 51 ปี บิดาของเจ้าสาวเล่าว่า  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นครอบครัวรู้สึกเสียใจมาก  สาเหตุเกิดจากความไม่เข้าใจของญาติทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนตนและภรรยาซึ่งเป็นพ่อกับแม่เจ้าสาวไม่ได้มีปัญหาอะไร คุยกันเข้าใจแล้วแต่ญาติก็อารมณ์ร้อนกันทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยความรักที่มีต่อทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวจนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น   

นายบุญสวนกล่าวว่า ตนรักและสงสารลูกมากเพราะเขาต้องทำงานที่ต้องพบปะผู้คนมากมาย พ่อและแม่ก็ได้แต่ปลอบประโลมและให้กำลังใจลูก และตอนนี้ลูกสาวก็เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯแล้ว  

ส่วนการเจรจาพูดคุยกับทางฝ่ายเจ้าบ่าวก็ตกลงกันได้ด้วยดีเมื่อคืนนี้คือฝ่ายเจ้าบ่าวยินดีจะมาชดใช้ค่าเสียหายและจะมาทำพิธีการแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณีโดยจะจัดงานเล็กๆเฉพาะในครอบครัวเท่านั้น แต่รอให้ทุกอย่างลงตัวและสถานการณ์ต่างๆดีขึ้นก่อนเพราะทั้งสองคนเขายืนยันว่ายังรักกันดี

"ผมต้องกราบขอโทษแขกและญาติๆที่มาร่วมในงานแต่งงานลูกสาวของผมและเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมา  ผมขอรับผิดแทนลูกและก็หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจและให้อภัยครอบครัว"นายบุญสวนกล่าว

นายบุญสวน กล่าวอีกว่า ในส่วนของว่าที่ลูกเขยนั้น ตนก็รักและเอ็นดู อยากให้มาอยู่ดูแลลูกสาวเพื่อให้เป็นฝั่งเป็นฝา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความผิดของเจ้าสาวและเจ้าบ่าว แต่เป็นความอารมณ์ร้อนของญาติทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น แต่ตอนนี้ทุกคนได้เจรจาพูดคุยเข้าใจกันดีแล้ว ส่วนตนก็จะไม่ติดใจเอาความอะไรกับฝ่ายเจ้าบ่าว ส่วนที่ไปสถานีตำรวจก็เป็นแค่ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ไม่ใช่การแจ้งความ จึงสามารถเจรจากันได้ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ส่วนเรื่องค่าสินสอดก็จะไม่มีการเรียกเพิ่มแน่นอน เพราะตนไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นอีก  เพียงแต่อยากให้เรื่องจบกันด้วยดี เพื่อให้ลูกสาวได้มีครอบครัวที่มีความสุข ผู้เป็นพ่อ-แม่ ก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย