เหยื่อแจ้งความถูกบริษัทหลอกลงทุนซื้อซิมมือถือเสียหาย

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพาผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนซิมการ์ดแจ้งความ เผยพบผู้เสียหาย 198 ราย สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย 2 ราย เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยแจ้งว่า ถูกบริษัท  ออริจินอล เน็ทเวิร์ค หลอกให้ซื้อซิมการ์ด ใช้เน็ตฟรี โทรฟรี พร้อมให้ร่วมชวนเพื่อนมาซื้อ เพื่อจะได้เงินส่วนแบ่งในการชักชวนสมาชิก โดยผู้เสียหายได้นำเอกสารเกี่ยวกับเพจการโฆษณาชวนเชื่อ ของบริษัทดังกล่าว มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

หนึ่งในผู้เสียหายระบุว่า ได้พบกับเพจเฟซบุ๊กของบริษัทดังกล่าว โดยเห็นว่ามีการให้ลงเงินเพื่อจะได้ใช้บริการโทรศัพท์และเน็ตฟรี ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่า มีการนำเงินมาจำนวน 29,995 บาท จากนั้นจะได้โทรศัพท์ฟรี 1 เครื่อง พร้อมกับใช้เน็ตฟรี โทรฟรี ตลอดไป อีกทั้งให้มีการชักชวนเพื่อนให้มาร่วมลงเงินเพื่อจะได้โทรศัพท์ฟรี และใช้เน็ตใช้โทรฟรี ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนในการชักชวนเพื่อนอีกรายละ 500 บาท จึงได้ลงเงินและชักชวนเพื่อน ๆ ไป โดยได้ตนเองและเพื่อน ๆ ได้โอนเงินไปให้หมดแล้ว แต่ยังไม่ได้เครื่องหรือซิมการ์ดมาใช้งานแต่อย่างใด เมื่อสอบถามไปทางบริษัทฯก็บอกให้รอ พร้อมทั้งมีข้ออ้างกับลูกค้าหลายครั้งว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบตรวจเช็คสัญญาณ ตรวจเช็คเครื่อง และเมื่อเวลาผ่านไปนานก็ยังไม่ได้รับสินค้า จึงทราบว่าคาดว่าถูกหลอก จึงได้พากันรวมตัวมาแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนความเดือนร้อนจากประชาชนกรณีถูกหลอกให้ซื้อซิมการ์ด โดยขณะนี้พบว่ามีผู้ถูกหลอกลวงจำนวน 198 ราย รวมเงินประมาณ กว่า 3 ล้านบาท และเมื่อติดต่อไปที่บริษัทดังกล่าว กลับพบว่าไม่มีการชดใช้เงินให้ และยังคงเปิดบริษัทอยู่ ทำให้ประชาชนที่เดือดร้อนต่างรวมตัวกันเพื่อแจ้งความเอาผิด

ทั้งนี้ บริษัท ดังกล่าวได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอาง รวม 2 รายการ ไม่มีการขอจดทะเบียนการทำธุรกิจเคาร์เตอร์เซอร์วิสและซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบว่าบริษัทดังกล่าวมีที่ตั้งอยู่ที่เขตพื้นที่ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความ และตรวจสอบหลักฐานพร้อมทั้งสอบปากคำผู้เสียหายที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งเบื้องต้นได้ดำเนินการเอาผิดกับบริษัทฯดังกล่าว 3 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน 2.ความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ 3.สมคบคิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ร่วมกันฟอกเงิน อย่างไรก็ตามจะได้ดำเนินการเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป