posttoday

อดีตแชมป์มวยโลกคนที่2ของไทยล้มป่วยโรคพาร์กินสัน

10 กันยายน 2553

ชาติชาย เชี่ยวน้อย อดีตนักมวยสากลแชมป์โลกคนที่สองของไทย ล้มป่วยด้วยโรคพาร์กินสัน แต่สุขภาพทั่วไปยังแข็งแรง ได้รับการดูแลจากครอบครัวเป็นอย่างดี

ชาติชาย เชี่ยวน้อย อดีตนักมวยสากลแชมป์โลกคนที่สองของไทย ล้มป่วยด้วยโรคพาร์กินสัน แต่สุขภาพทั่วไปยังแข็งแรง ได้รับการดูแลจากครอบครัวเป็นอย่างดี

 

อดีตแชมป์มวยโลกคนที่2ของไทยล้มป่วยโรคพาร์กินสัน

นพ.วัฒนา  กาญจนกามล  สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสันกำแพง เข้าตรวจสุขภาพนายนริศ หรือ ชาติชาย เชี่ยวน้อย อดีตนักมวยแชมป์โลกคนที่สองของไทย   ขณะนี้มีบ้านพักที่หมู่บ้านศิวาลัย อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อยู่กับภรรยานางสิรินทร และบุตรชาย  ขณะนี้ชาติชายมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์  แต่เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองขณะชกมวย

ทั้งนี้จึงทำให้เส้นประสาทในสมองเสื่อม การเคลื่อนไหวช้ากว่าปกติ ไม่สามารถควบคุมการไหลของน้ำลายได้ แต่ร่างกายยังแข็งแรงเป็นปกติ มีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส โดยนางสิรินทร ภรรยาของชาติชายได้กล่าวขอบคุณชาวไทยทุกคนผ่านสื่อมวลชนที่ยังไม่ลืมชาติชาย  และครอบครัว และยืนยันว่าตนและลูกๆ จะดูแลชาติชายอย่างดี

นพ.วัฒนา   กล่าวว่า จากการตรวจสุขภาพเบื้องต้นชาติชายมีสุขภาพแข็งแรงดี โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งและนำโลหิตไปตรวจ หากมีปัญหาสุขภาพก็จะส่งโรงพยาบาลโรงพยาบาลดูแล ทำกายภาพบำบัดหรือตามที่ครอบครัวร้องขอ

สำหรับชาติชาย  เชี่ยวน้อย เจ้าของฉายามาร์เซียโน่น้อยแห่งเอเชีย  ปัจจุบันอายุ 68 ปี  เป็นแชมป์โลกคนที่สองของไทยรุ่นฟลายเวท เมื่อปี 2505 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์  พื้นเพเดิมเป็นชาวปทุมวัน กรุงเทพมหานคร มีบุตร 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน ชาติชายได้มีโอกาสชกต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหลายครั้ง และทรงมีพระกรุณาต่อชาติชายอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังคงตรึงอยู่ในความทรงจำของชาติชายตราบจนปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้สื่อได้นำเสนอข่าวไปว่าล้มป่วยหนักไม่มีใครดูแล ตกทุกข์ แม้แต่ข่าวลือว่าเสียชีวิตก็ออกมา ซึ่งทางครอบครัวเองก็ไม่สบายใจกับข่าวที่นำเสนอไม่ได้เป็นจริงแต่อย่างไร อีกทั้งไม่ได้เรียกร้องให้ใครมาช่วยเหลือ เนื่องจากตอนนี้มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องใดเลยนอกจากเรื่องสุขภาพ 
 
อย่างไรก็ญาติของชาติชาย กล่าววา ตอนนี้มีคนสนใจจนถึงกับมาดูแลความเป็นอยู่ก็ ดีใจที่ยังมีคนเป็นความสำคัญ และนึกถึงอยู่ ตอนนี้หากทางแพทย์จะลงมาช่วยดูเรื่องสุขภาพก็ยินดี และฝากขอบคุณทุกผ่ายที่เป็นห่วง และยังนึกถึงเป็นตัวอย่างสำหรับนักกีฬารุ่นหลังๆ ต่อไปด้วย