posttoday

ศาลออกหมายจับทหาร9นายคดีซ้อมพลทหารดับ

05 เมษายน 2560

ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 อนุมัติหมายจับทหาร 9 นายคดีพลทหารถูกซ้อมดับในคุก พร้อมสั่งพักราชการนายทหาร

ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 อนุมัติหมายจับทหาร 9 นายคดีพลทหารถูกซ้อมดับในคุก พร้อมสั่งพักราชการนายทหาร

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร พนักงานสอบสวนไปยื่นคำร้องขอออกหมายจับนายทหารประจำการและพลทหารกองประจำการรวม10 นายข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตายในคดีทำร้ายร่างกายพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม อายุ 22 ปี ทหารกองประจำการสังกัดมณฑลทหารบกที่45 ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างถูกลงโทษกักขังอยู่ในเรือนจำ มทบ.45 และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาอนุมัติออกหมายจับจำนวน 9 หมายเป็นนายทหารประจำการ 4 นาย และทหารกองประจำการ 5 นาย ส่วนนายเวรประจำเรือนจำ มทบ.45 ให้ออกหมายเรียกแทน เนื่องจากพิเคราะห์ว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่มีพฤติกรรมสร้างความยุ่งเหยิงให้กับพยานหลักฐาน โดยให้พนักงานสอบสวนนำตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ต่อมาเวลา 14.00 น.พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ.45 พล.ต.ต.อภิชาติ  นายศุภวัชร ศักดา รอง ผวจ. สุราษฎร์ธานี แถลงผลการขออนุมัติออกหมายจับ โดย พล.ต.วิชัย  กล่าวว่า กระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้ง 9 นาย และให้ควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำ มทบ.45 พร้อมจะมีคำสั่งให้นายทหารประจำการทั้ง 5 นายให้พักราชการไว้ก่อน ส่วนจะมีบุคคลใดเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน

"การสืบสวนของข้อเท็จจริงของคณะกรรมการที่ มทบ.45 แต่งตั้งขึ้นพบว่าผู้ที่ก่อเหตุมี 5 คน ส่วนที่เหลือมีส่วนรู้เห็น ไม่มีการห้ามปราม ส่วนผู้ใดจะเป็นผู้ดำเนินการขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานการสอบสวน ทาง มทบ.45 พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ "พล.ต.วิชัย  กล่าว

พล.ต.ต. อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้ง 10 นายเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และการสอบสวนพยานมีหลักฐานไปถึงในการร่วมกระทำความผิดซึ่งจะมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขอหมายจับในรอบที่สองต่อไปหากมีหลักฐานไปถึงตัว