พายุซัดเรือประมงล่มพ่อดับลูก2คนรอด

เพชรบุรี-พ่อพาลูกชาย2คนออกทะเลไปวางอวนปูเจอพายุพัดกระหน่ำซัดเรือประมงล่มเสียชีวิตลูกรอด ส่วนบนบกเสาไฟฟ้าล้มกว่า30ต้น

เมื่อวันที่1เม.ย.60 ร.ต.อ.วิสูตร พูลพิพัฒน์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี รุดไปตรวจสอบกรณีมีการพบศพเจ้าของเรือประมงถูกลมพายุพัดจมทะเลที่ริมชายทะเล หมู่ 3 บ้านทำเนียบ ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม เมื่อไปถึงพบศพนายบุญส่ง เปลี่ยนประดับ อายุ49ปี อยู่บ้านเลขที่  150/2  หมู่ 4  ต. บางแก้ว  อ. บ้านแหลม นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นโคลนริมชายทะเลติดกับป่าแสม สภาพศพนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเทา

สอบสวนทราบว่า นายบุญส่งได้นำเรือประมงออกไปวางอวนปูบริเวณล่องน้ำท่าจอดเรือประมงบางแก้วออกจากไปวางจากชายฝั่งทะเลราว 1 กิโลเมตร มีนายเจตดากร เปลี่ยนประดับ อายุ 20 ปี และนายบริพัฒน์ เปลี่ยนประดับ อายุ 17 ปี  ลูกชายออกเรือไปด้วยและเกิดเหตุลมพายุพัดกระหน่ำจนทำให้เรือประมงพลิกคว่ำ ลูกชายทั้ง 2 ช่วยกันรอดชีวิตมาได้ ส่วนนายบุญส่ง ผู้เป็นพ่อจมน้ำทะเลเสียชีวิตจนมีชาวบ้านที่ออกไปหาหอยมาพบและนำร่างขึ้นมาบนฝั่ง

นายบริพัฒน์ ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า ได้ยินเสียงวิทยุสื่อสารที่ติดกับเรือว่าจะเกิดพายุพ่อได้รีบหันหัวเรือพร้อมเร่งเรือเข้าฝั่งทันที ทั้งที่ยังเก็บอวนปูที่วางไว้ไม่หมด แต่เมื่อเรือแล่นหันหน้าเข้าฝั่งได้เล็กน้อยได้เกิดลมพักแรงและมีคลื่นสูงได้เข้ามาปะทะกับเรือจนเรือได้พลิกตะแคงทันที ทำให้ต่างคนต่างพากันหนีเอาตัวรอด พี่ชายและพ่อได้เกาะถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร ลอยคออยู่ในน้ำ แต่ถังน้ำมันที่พ่อเกาะอยู่ไม่มีฝาปิด ซึ่งพ่อได้บอกให้ไปดูพี่ชายเพราะว่ายน้ำไม่เป็นจึงว่ายน้ำจากพ่อไปประคองพี่ชายว่ายน้ำพร้อมถังน้ำมันเข้าหาโขดหินระหว่างนำพี่ชายเข้าฝั่ง ได้เห็นเสียงพ่อตะโกนว่าไม่ไหวแล้วก่อนจมน้ำทะเลหายไป กระทั่งมีคนแจ้งว่าพบพ่อนอนเสียชีวิตอยู่ริมป่าแสมติดชายฝั่งเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยพ่อได้

นอกจากเรือประมงชายฝั่ง จะถูกลมพายุและคลื่นซัดจนเรือคว่ำแล้ว ยังมีเสาไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 เพชรบุรี ถูกลมพายุพัดล้มไปแถวยาวจำนวน 33 ต้น บริเวณริมถนนสายเพชรบุรี-หาดเจ้าสำราญ เริ่มตั้งแต่หมู่บ้านสมอลก ต.หนองขนาน เป็นต้นไป ระยะทางเกือบ 1 กม.มีหลายต้นที่โค่นแตกหักเสียหายแต่โชคดี ไม่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 เพชรบุรี ได้ทำการสลับสายไฟฟ้าไปยังสายส่งไฟฟ้าที่อยู่ตรงกันข้ามให้กระแสไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติแล้วดำเนินการยกเสาไฟฟ้า ปรับปรุงซ่อมแซมระบบใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวัน ส่วนค่าเสียหาย เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้