อดีตเจ้าอาวาสส่งสมุดบัญชีเงินฝาก-ทรัพย์สินคืนวัด

ขอนแก่น-อดีตเจ้าอาวาสนักพัฒนาชื่อดังยืดอกรับผิดส่งคืนสมุดบัญชีกุญแจคืนวัดดังหลังมีภาพหลุดถ่ายคู่กับหญิงสาว ยืนยันเป็นภาพหลุดหลังสึกแล้ว

นายสมหวัง  ชาตระวัง อายุ 50 ปี หรืออดีตพระครูโอภาสธรรมวิภัช อดีตเจ้าอาวาสศรีสว่างโนนทัน เขตเทศบาลนครขอนแก่น เดินทางเข้าพบคณะกรรมการของวัด หลังจากที่ลาสิขาบท เพราะมีรูปภาพถ่ายกับหญิงสาว ก่อนที่จะตรงเข้ายกมือไหว้นายเรือง  สุระเสียง ไวยาวัจกรณ์ของวัดพร้อมกับกล่าวขอโทษที่สร้างปัญหาให้กับวัด จากนั้นได้มอบสมุดบัญชีธนาคารของวัดรวมไปถึงกุญแจที่เกี่ยวข้องกับวัดคืนให้กับคณะกรรมการวัดทั้งหมด

นายสมหวัง กล่าวว่า โดยส่วนตัวผูกพันกับวัดแห่งนี้อย่างมาก มาบวชและจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่ไม่มีอะไรได้ช่วยกันกับชุมชนพัฒนามาโดยตลอดจนกลายเป็นวัดพัฒนาต้นแบบของจังหวัดและเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของญาติโยมมาจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ ภาพที่ปรากฎออกไปนั้นยอมรับว่าเป็นภาพของตนเองจริงแต่เป็นภาพที่เกิดขึ้นหลังจากการลาสิกขาบทไปแล้ว ขณะเดินทางไปทางไปสถานที่ต่างๆคู่กับฆราวาส โดยภาพที่ถูกนำมาเผยแพร่ก่อนหน้านั้นไม่ทราบว่าเกิดขึ้นอย่างไร และไม่ใช่ภาพตนเองอย่างแน่นอน อาจจะเป็นภาพตัดต่อที่เกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่ต้องการจะมากลั่นแกล้งตนเองก็เป็นไปได้

“ผมเป็นลูกผู้ชายพอ และไม่ต้องการให้เสื่อมเสียในวงการพระพุทธศาสนา เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่อยากให้ญาติโยม และพระผู้ใหญ่เดือดร้อนใจ จึงได้ประสานงานร่วมกับคณะกรรมการวัดขอลาสิกขาบทเป็นฆราวาสเต็มตัว เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ทรัพย์สินต่างๆของวัดผมก็ไม่ได้เอาไปไหน มีเพียงรถยนต์ 2 คัน และเงินสดบางส่วนก็เป็นของผม วันนี้ได้นำกุญแจวัดมาคืนให้กับพระลูกวัด และกรรมการวัดได้ตรวจสอบ ส่วนเงินต่างๆของวัดในบัญชีธนาคารก็เอามาส่งคืน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ประกอบด้วย สมุดบัญชีของธนาคารเกียรตินาคิน สาขาขอนแก่น ยอดเงิน 67,913 บาท สมุดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนหน้าเมือง ยอดเงิน 1,716,714 บาท และสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาขอนแกน ยอดเงิน 17,040 บาท จากนี้ไปคงประกอบอาชีพส่วนตัว ส่วนเรื่องของภาพผู้หญิงที่ปรากฎมานั้นไม่ขอให้มายุ่งเกี่ยว และขอขอบคุณที่สื่อมวลชนให้โอกาสได้มาชี้แจงข้อเท็จจริง และวัดแห่งนี้ผมยังคงผูกพันเพราะบวช และจำพรรษามากว่า 30 ปี จึงจะยังคงกลับมาทำบุญที่วัดแห่งนี้เช่นเดิม” นายสมหวังกล่าว

ด้านนายเรือง  สุระเสียง ไวยาวัจกรณ์ประจำวัดศรีสว่างโนนทัน กล่าวว่า จาการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดในด้านต่างๆ อดีตเจ้าอาวาสไม่ได้นำทรัพย์สินของทางวัดไปแต่อย่างใด คงเอาไปเพียงทรัพย์สินส่วนตัวเท่านั้น

ทั้งนี้ คณะกรรมการวัดและคนในชุมชนล้วนต่างไม่ติดใจเอาความ และต้องการให้เรื่องดังกล่าวนี้ยุติลง ซึ่งถือว่าอดีตเจ้าอาวาสนั้นได้ทำบุญมาเพียงแค่นี้ และจากนี้ไปรองเจ้าอาวาส รักษาการณ์เจ้าอาวาสไปพลางก่อนก่อนที่คณะสงฆ์ปกครองจะมีการประชุมและพิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ต่อไป