posttoday

ทิ้งเมืองสู่ชีวิตพอเพียง สาวแบงก์ทำนาในบ่อคอนกรีต

27 พฤศจิกายน 2559

การมีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกมากนัก นั่นคือคำตอบ

โดย...สุนันท์ โอชะขจร

ชีวิตที่อยู่กับความทันสมัยในเมืองใหญ่ ต้องแลกด้วยอะไรหลายอย่าง ทั้งวิถีชีวิตที่ต้องดิ้นรนแข่งขันสวนทางกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว ภาวะการดำรงชีวิตที่ต้องผูกติดกับระบบทุน สินค้าทุกอย่างต้องชื้อหา ยากที่จะผลิตขึ้นมาใช้เอง แม้แต่การปลูกพืชผัก ยิ่งนานวัน ผู้คนในสังคมเมืองก็ยิ่งอ่อนแอ

วิถีชีวิตเช่นนี้ ปองกานต์ เนตรน้อย สัมผัสมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ซึ่งเธอต้องจากครอบครัว และวิถีชีวิตชาวนาอันแสนสุขใน ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าไปเรียนที่กรุงเทพมหานคร แม้แต่เรียนจนล่วงเข้าวัยทำงาน ชีวิตก็ยังผูกติดอยู่กับวิถีเมือง ด้วยการเป็นพนักงานของสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง

การใช้ชีวิตในสังคมเมืองที่มีความเร่งรีบ ภาวะความกดดันสูง รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีแต่สารพิษ จึงทำให้เธอและคนในครอบครัวหันกลับมามองชีวิตว่าต้องการอะไร จนค้นพบว่าการมีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกมากนัก นั่นคือคำตอบ 

ทิ้งเมืองสู่ชีวิตพอเพียง สาวแบงก์ทำนาในบ่อคอนกรีต

 เมื่อรู้คำตอบของชีวิต ปองกานต์ และ ธนยศ เนตรน้อย สามี จึงหวนคืน อ.บ้านโป่ง เริ่มต้นด้วยการสร้างบ้านหลังเล็กๆ ในที่ดินเนื้อที่กว่า 3 ไร่ จากนั้นก็วางแผนที่จะใช้ที่ดินซึ่งมีอยู่ ทำการเกษตรผสมผสานเลี้ยงชีวิต

“เริ่มต้นโดยปลูกมะนาว พริก มะละกอ รอบบริเวณบ้าน พร้อมกับขุดบ่อกักเก็บน้ำ และใช้เวลาวันหยุดกลับมาดูแล และอยากจะทดลองปลูกข้าวไว้กินเองในครัวเรือนบ้าง เพื่อช่วยลดรายจ่าย”

เมื่ออยากทดลองปลูกข้าว เธอและสามีจึงเริ่มศึกษาวิธีการปลูกข้าว โดยทดลองปลูกข้าวในบ่อคอนกรีตทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.20 เมตร โดยใช้พันธุ์ข้าวหอมมะลิจาก จ.บุรีรัมย์

ขั้นตอนปลูกก็ไม่ยุ่งยากมากนัก เริ่มจากการเพาะต้นกล้าให้ได้อายุ 60 วัน จากนั้นก็นำลงปลูกในบ่อคอนกรีตที่เตรียมดินผสมปุ๋ยคอก ซึ่งใช้ต้นกล้าข้าวประมาณ 20 ต้น ต่อ 1 บ่อ หรือดูที่ความเหมาะสมไม่ให้หนาแน่นเกินไป โดยต้องเผื่อไว้สำหรับต้นข้าวที่จะเจริญเติบโตแตกกอต่อไปด้วย

“ตั้งแต่เริ่มปลูกจะต้องหมั่นใส่น้ำ เพื่อหล่อเลี้ยงข้าวอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งข้าวออกรวงและสามารถเก็บเกี่ยวได้ใช้เวลาประมาณ 120 วัน หรือ 4 เดือน โดยข้าว 1 บ่อ สามารถให้ผลผลิตข้าวสาร 1 กิโลกรัม เราปลูกทั้งหมด 72 บ่อ จะได้ข้าวสารประมาณ 72 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอต่อการบริโภคของทั้งครอบครัวตลอดทั้งปี”

ทิ้งเมืองสู่ชีวิตพอเพียง สาวแบงก์ทำนาในบ่อคอนกรีต

จากการทดลองปลูกข้าวในบ่อคอนกรีต ปองกานต์ บอกว่า ข้อดีคือความสะดวกและง่ายต่อการกำจัดวัชพืช ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี สามารถควบคุมปริมาณน้ำและสารอาหารได้อย่างเหมาะสม ทำให้มั่นใจได้ว่าข้าวมีคุณภาพและปลอดสารพิษไว้บริโภค ในครัวเรือน

ระหว่างที่บอกเล่าถึงเรื่องราวชีวิตที่ตัดสินใจเลือก ปองกานต์และสามี ช่วยกันเติมน้ำและเก็บต้นวัชพืชในบ่อคอนกรีตทรงกลมที่ภายในปลูกข้าวจนต้นสูงชูช่อออกรวงสีทองสวยงาม อีกไม่นานรวงข้าวเหล่านี้จะถูกเก็บเกี่ยว เพื่อเก็บไว้บริโภคในครัวเรือน ลดต้นทุนค่าครองชีพไปได้ตลอดปีและเธอก็เตรียมที่จะเริ่มปลูกข้าวในบ่อคอนกรีตรอบใหม่ต่อไป

เมื่อรู้ความพอเพียง ชีวิตก็เพียงพอ แนวทางชีวิตนี้ พ่อหลวงของแผ่นดิน พระราชทานไว้ให้นานแล้ว