ทหารเขมรรับปากช่วยประสานส่ง3คนไทยกลับ

นักธุรกิจไทยเผย ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชารับปากประสานทางการ ส่ง 3 คนไทยที่ออกหาของป่าพลัดหลงข้ามเขตแดนกลับประเทศ ย้ำที่ผ่านมาต่างก็เคยพลัดหลงขณะออกหาของป่าหลายครั้ง

แหล่งข่าวนักธุรกิจชาวไทยที่ลงทุนในกัมพูชา เปิดเผยว่า พล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการภูมิภาค ทหารที่ 4 กัมพูชา ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนม  กับนายทหารระดับสูงของ กองกำลังสุรนารี และกองทัพภาค ที่ 2 ของไทย ได้สั่งการและส่งเจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชาเดินทางเข้าไปประสานงานให้การช่วยเหลือเพื่อขอความร่วมมือ ที่จะไม่ให้ทางการกัมพูชาตั้งข้อหา แก่ชาวไทยทั้ง 3 คนที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัวแล้ว 

ญาติ3คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมต่างติดตามข่าวอย่างใจจดใจจ่อ

ทั้งนี้ได้ยื่นเสนอเหตุผลว่าเป็นเพียงการผลัดหลงข้ามเขตแดนเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมา ทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ทั้ง 2 ประเทศต่างก็เคยพลัดหลงข้ามแดนขณะที่เข้าป่าหาเก็บเห็ดและล่าสัตว์ป่า มาหลายครั้งแล้วเช่นกัน  อีกทั้งทุกครั้งที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศในพื้นที่ก็จะมีการติดต่อประสานงานกันทุกครั้ง เพื่อขอปล่อยตัวประชาชนทั้ง 2 ประเทศที่ผลัดหลงกลับคืนประเทศและไม่เคยมีปัญหา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากกัมพูชาว่าได้มีการดำเนินการช่วยเหลือ 3 คนไทยไปถึงไหนแล้วแต่อย่างใด

ส่วนบรรดาเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง ลูกหลานและภรรยาของคนไทยทั้ง 3 คนก็ยังคงเฝ้ารอการช่วยเหลือของทางทหารกัมพูชาอย่างใจจดใจจ่อหลังจากทราบว่า พล.ท. เจีย รับปากจะช่วยประสานงานให้ โดยครอบครัวของชาวไทยทั้ง 3 คน หลังได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับคนไทยทั้ง 3 คนเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่างรู้สึกโล่งใจมากขึ้น เมื่อทราบข่าวความเป็นอยู่และได้พูดคุยกับปากต่อปากว่าทั้ง 3 คนปลอดภัยดี 

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คนไทยซึ่งได้รับมอบหมายจาก ผวจ.สุรินทร์ให้เข้าไปดูแลแล้วอีกด้วย ก็ยิ่งทำให้ครอบครัวของ 3 คนไทยโล่งอกและอุ่นใจมากขึ้นตามมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือ 3 คนไทยกลับประเทศได้ในเร็ววันนี้

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวรายงานว่า พล.ท.เจีย เปิดเผยถึงความรู้สึกถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่ารู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน เพิ่งจะมาทราบเรื่อง จากนายทหารระดับสูงของไทยว่ามีชาวไทย 3 คน ถูกจับกุมและเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลจังหวัดเสียมราฐ พร้อมได้ตำหนิ เจ้าหน้าที่ของกัมพูชาในพื้นที่ที่ทำการจับกุมว่าไม่รายงานเหตุการณ์ให้ ผู้บัญชาการภูมิภาค ทหารที่ 4 กัมพูชาทราบก่อน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ 

เนื่องจากชาวไทยและชาวกัมพูชา มีความสัมพันธ์ ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด   พร้อมทั้งรับปากว่า พร้อมที่จะส่งเจ้าหน้าที่ ทหาร เข้าไปประสานงาน และเตรียมให้การช่วยเหลือชาวไทย ทั้ง 3 คน ในวันนี้ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วดังกล่าว

ด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.สุรินทร์ ได้โทรศัพท์ประสานงาน กับตัวแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และนักธุรกิจชาวไทย ซึ่งผวจ.สุรินทร์ ได้ส่งให้เดินทางไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่จังหวัดเสียมราฐ ในการช่วยเหลือชาวไทยทั้ง 3 คน ที่ถูกคุมขัง อยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดเสียมราฐ ว่า ทุกคนสบายดี เจ้าหน้าที่ ทางการกัมพูชา และ ตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้าเยี่ยม และนำอาหาร ไปให้ชาวไทยทั้ง 3 คน ได้รับประทานกันแล้ว ซึ่งทุกคนมีขวัญและกำลังใจดีมาก มีความมั่นใจมากขึ้น  เมื่อได้พบกับตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ทุกคนรอคอย ความช่วยเหลือจาก เจ้าหน้าที่ทางการของไทยให้การช่วยเหลือ

นอกจากนี้สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ในการนำตัวชาวไทยทั้ง 3 คน กลับประเทศ ขณะนี้ กำลังประสานงาน และรอคำตอบ จากท่านผวจ.เสียมราฐ เมื่อท่าน ได้รับหนังสือ จากจากผวจ.สุรินทร์ ทำไป เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดต่างๆนั้น ตอนนี้ พูดได้ลำบากขึ้น เพราะเป็นการประสานขอความช่วยเหลือ การจะพูดอะไรไป ต้องระมัดระวัง เพราะอาจจะกระทบ กับความสัมพันธ์ ในระดับพื้นที่ และเกียรติภูมิ ของประเทศ

"ต้องทำอย่างระมัดระวัง และเราไม่ก้าวล่วง อำนาจการตัดสินใจ ของเจ้าหน้าที่ จังหวัดเสียมราฐ แต่ก็ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ ที่ดีต่อกัน ระหว่างประชาชน และเจ้าหน้าที่ไทย และกัมพูชา ในพื้นที่ติดต่อกัน มีการให้ความช่วยเหลือ และพึ่งพาอาศัยกันแบบเพื่อนบ้านที่ดีมาโดยตลอด เป็นเวลาอันยาวนาน"นายระพี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนกัมพูชา ติดต่อกับจังหวัดสุรินทร์ ได้ประสานงานกับ ฝ่ายพลเรือน จังหวัดกัมพูชา เพื่อขอทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวไทย ทั้ง 3 คน ต่อไป โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ ที่ดีต่อกัน ในระดับพื้นที่ ที่มีมาอย่างยาวนานเช่นกัน 

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้มีหนังสือ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเร่งรัด การให้ความช่วยเหลือชาวไทยทั้ง 3 คน โดยยึดมั่น ในความสัมพันธ์ ที่ดีต่อกัน ในระดับพื้นที่ ที่มีมาอย่างยาวนาน