กรมเจ้าท่าเดินหน้าเสริมทรายเสริมชายหาดพัทยา

ชลบุรี-เจ้าท่าพร้อมถมทรายชายหาดเมืองพัทยารับมหกรรมสวนสนามเรือรบนานาชาติ ประเดิมพ่นทราย100เมตรแรกที่พัทยาเหนือ
 
นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเสริมทรายชายหาดเมืองพัทยา ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี2558ว่า ปัจจุบันได้แหล่งทรายแห่งใหม่แล้ว ซึ่งอยู่บริเวณเกาะรางเกวียน ในพื้นที่อำเภอบางเสร่ เพื่อนำมาพ่นเสริมเติมชายหาดจากของเดิมยื่นออกไปในทะเลเป็นระยะ 35 เมตร ตลอดความยาวของชายหาดพัทยา ซึ่งมีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร โดยจะแบ่งพื้นที่การพ่นทรายออกเป็น 2 ช่วง เริ่มช่วงแรก ตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือถึงชายหาดพัทยากลาง ส่วนช่วงที่สองเริ่มจากพัทยากลางไปสิ้นสุดที่พัทยาใต้ และแต่ละช่วงจะเริ่มดำเนินการพ่นทรายไปทีละ 100 เมตร รวมระยะเวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้นประมาณ 6-8 เดือน แต่จะต้องให้การดำเนินงานแล้วเสร็จให้ทันเดือนพฤศจิกายนในปี 2560 เนื่องจากอ่าวพัทยา จะต้องเป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับบรรดาเรือรบชนิดต่างๆ จากชาติอื่นๆกว่า 40-50 ประเทศ ที่จะเข้าร่วมมหกรรมสำคัญ ได้แก่ พิธีสวนสนามเรือรบนานาชาติ

โครงการเสริมทรายชายหาดเมืองพัทยา สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เตรียมที่จะติดตั้งท่าเทียบเรือชั่วคราว หรือแพตฟอร์ม ไว้บริเวณจุดชมวิวพัทยากลาง ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 ,000 กิโลเมตร ขนาด 7 x13 เมตร และมีพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งสิ้น 150 x150 เมตร เพื่อให้เรือลำเลียงทรายที่มาจากเกาะรางเกวียนจำนวน 2 ลำ ต่อวัน สามารถเทียบท่านำทรายบรรจุเข้าเครื่องพ่น ซึ่งติดตั้งอยู่บนแพตฟอร์มดังกล่าว เริ่มต้นพ่นทรายตามแผนงานที่ได้มีการวางไว้ว่าจะต้องดำเนินการพ่นทรายไม่ต่ำกว่า 1 ,800 ตันต่อวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน และจะต้องเริ่มงานทันทีไม่เกินสิ้นเดือนกันยายนนี้
          
ทั้งนี้โครงการเสริมทรายชายหาดเมืองพัทยา แน่นอนว่า หากมีการเริ่มต้นการทำงานจะมีผู้ประกอบการบางส่วนที่จะต้องยุติการดำเนินกิจการเป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย ผู้ประกอบการเรือสบีดโบท เรือลากร่ม และเจตสกี เป็นจำนวน 10 ราย รวมทั้งผู้ประกอบการร่มเตียง ที่ตั้งอยู่บนชายหาดพัทยาเหนือที่มีพื้นที่ประกอบ การอยู่ใน 100 เมตรแรกของการดำเนินงานและได้มีการชี้แจงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้มีความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าระยะเวลา 6 เดือนที่ได้กำหนดไว้โครงการจะแล้วเสร็จทันตามกำหนดการ หากไม่ติดปัญหาอุปสรรคในเรื่องของสภาพอากาศแปรปวนจนส่งผลให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงัก แต่เราก็ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องไม่เกิน 8 เดือน เพื่อให้ทันต้อนรับงานมหกรรมสวนสนามเรือรบนานาชาติที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปี 2560