ราไวย์ปะทะเดือดเจ็บ2

ชาวราไวย์เปิดศึกปะทะเดือดพนักงานบารอนอีกระลอกหลังนำรถแบ็กโฮเข้าพัฒนาพื้นที่พิพาทเจ็บ 2

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ต้องระดมกำลังเข้าหย่าศึกชาวเลราไวย์ หมู่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดศึกปะทะพนักงานบริษัท บารอน เวิลด์ เทรด อีกระลอกเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีนี้ หลังจากพนักงานบริษัท บารอนฯ ได้นำรถแบ็กโฮเข้าพัฒนาพื้นที่ข้อพิพาทและนำก้อนหินขนาดใหญ่ปิดทางเดินเข้าออกพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง

ทั้งนี้ ทำให้ชาวเลราไวย์ไม่สามารถใช้เส้นทางเดินได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเลราไวย์จึงเกิดการปะทะอย่างรุนแรงขึ้นอีกระลอก  โดยชาวเลราไวย์ได้รวมตัวกันออกมาประท้วงพร้อมกับระดมปาก้อนหินเข้าใส่และกรูกันเข้าทุบทำลายรถแบ็กโฮจนกระจกแตกกระจาย ส่วนพนักงานบารอนหัวแตก 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สภ.ฉลอง เปิดเผยว่า ได้สนธิกำลังชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้ดูแลพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเหตุปะทะขึ้นอีกครั้ง หลังจากเมื่อเวลา 13.30 น. ชาวเลราไวย์เปิดศึกปะทะกับพนักงานบริษัท บารอนฯ อย่างรุนแรงหวิดเกิดเหตุบานปลาย เนื่องจากชาวเลราไวย์ไม่พอใจที่พนักงานบริษัท บารอนฯ นำรถแบ็กโฮมาพัฒนาพื้นที่พิพาทและปิดทางเข้าออก

ด้าน นายไมตรี จงไกรจักร ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง กล่าวว่า ชาวเลราไวย์กว่า 50 คนได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนดูแลความปลอดภัยกันเองตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันฝ่ายตรงข้ามเข้ามาก่อเหตุปั่นป่วน ตลอดทั้งข่มขู่ชาวเลราไวย์เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แม้ว่าที่ผ่านมาทาง มทบ.41 จะไกล่เกลี่ยกันแล้วแต่กลุ่มนายทุนไม่ฟังยังต้องการพัฒนาพื้นที่พิพาทอย่างต่อเนื่อง

“พวกเรากังวลว่าจะปะทะกันรุนแรงกว่านี้อีกจึงวางเวรยามดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง นายทุนสั่งคนงานนำรถแบ็กโฮเข้ามาพัฒนาพื้นที่พิพาทและปิดทางเข้าออกเพราะต้องการยั่วยุชาวเลราไวย์ อีกทั้งต้องการแตกหักกับชาวเลราไวย์ ที่จริงแล้วควรจะพัฒนาข้างในก่อน ไม่ใช่มาทำปิดทางเดินทำเขตปิดแบบนี้ ตอนนี้ทางอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนกว่า 10 คนมาให้กำลังใจชาวเลราไวย์ให้ต่อสู้กันต่อไป” นายไมตรี กล่าว

ขณะเดียวกัน แกนนำชาวเลราไวย์และชาวเลราไวย์จำนวน 12 คน เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.ฉลอง ให้เอาผิดบริษัท บารอนฯ ข้อหาทำลายทางสาธารณะ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวเลราไวย์และบริษัท บารอนฯได้ข้อยุติเร็วที่สุด ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงมากกว่านี้