posttoday

ขอนแก่นฝนตกหนักน้ำไหลลงเขื่อนอุบลรัตน์1.5ล้านลบ.ม./วัน

21 พฤษภาคม 2559

ขอนแก่น-ขอนแก่นเจอฝนตกหนักน้ำไหลลงเขื่อนอุบลรัตน์วันละ 1.5 ล้านลบ.ม.แต่ยังจำกัดการปล่อยน้ำ กลุ่มเกษตรกรเริ่มเพาะปลูกไร่มันสำปะพืชเศรษฐกิจสำคัญ

ขอนแก่น-ขอนแก่นเจอฝนตกหนักน้ำไหลลงเขื่อนอุบลรัตน์วันละ 1.5 ล้านลบ.ม.แต่ยังจำกัดการปล่อยน้ำ กลุ่มเกษตรกรเริ่มเพาะปลูกไร่มันสำปะพืชเศรษฐกิจสำคัญ

จากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนที่พาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะนี้ประกอบกับการปฎิบัติการฝนหลวงในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่ได้ผลส่งผลให้หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและมีลมกรรโชกแรง ซึ่งจากฝนที่ตกลงมานั้นได้ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างตามแหล่งน้ำสาธารณะต่างๆรวมไปถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของกลุ่มจงหวัดภาคอีสานตอนกลางรวมไปถึงเขื่อนลำปาวซึงเป็นอ่างเก็บน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ที่เริ่มมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างอย่างต่อเนื่องแล้วแต่ยังคงไม่มากนัก

นายวรวิทย์  รวีนิภาพงศ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการสรุปข้อมูลรายงานสภาพน้ำเก็บกักของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พบว่าเขื่อนอุบลรัตน์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 521.27 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น -3.27% ของความจุอ่าง โดยมีน้ำไหลลงอ่างอยู่ที่ 1.5 ล้าน ลบ..ซึ่งถืออยู่ในอัตราส่วนที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ขณะที่การระบายน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคและรักษาสภาพเขื่อนยังคงอยู่ที่ 5 แสน ลบ.ม. ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำได้กำหนด โดยน้ำเอการเกษตร ยังคงไม่มีการระบายต่อเนื่องไปในระยะนี้เนื่องจากปริมาณน้ำในความจุอ่างยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

“ขณะที่การตรวจสอบปริมาณน้ำของเขื่อนใกล้เคียงในกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนกลาง โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว นั้นขณะนี้มีปริมาณน้ำเก็บกัก 317 ล้าน ลบ.ม. โดยมีการระบายน้ำในการควบคุมของกรมประทานที่ 490,000 ลบ.ม. ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวนี้เป็นข้อมูลสุทธิเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ทั้งนี้หากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ก็จะมีน้ำเติมลงในความจุอ่างอย่างต่อเนื่องซึ่งก็จะส่งผลต่อการบริหารจัดการน้ำได้ต่อเองไปจนถึงช่วงฤดูฝนตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้”

ภายหลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ แม้ว่าบางพื้นที่จะมีฝนตกลงมาไม่มากนัก แต่ก็ส่งผลต่อดินที่มีความชุ่มชื้นโดยเฉพาะกับบางพื้นที่ที่สามารถเก็บกักน้ำได้บ้าง ทำให้เกษตรส่วนใหญ่ที่ปลูกมันสำปะหลัง พืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของภาคอีสาน เริ่มทยอยทำการไถและปรับสภาพดินเพื่อปลูกมันกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรในเขต อ.อุบลรัตน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่สำคัญที่ทำไร่มันสำปะหลังเป็นจำนวนมากของ จ.ขอนแก่น

นางนวลศรี จันทร์ดี เกษตรกรชาว ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น บอกว่า ได้ลงมือปลูกมันสำปะหลังรอบแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ต้นมันแห้งตายไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะความแห้งแล้งและสภาพอากาศที่ร้อนจัดไม่ไหว ซึ่งหลังจากที่มีฝนตกลงมาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้พื้นดินชุ่มฉ่ำจึงเร่งทำการปลูกซ่อมแซมเป็นรอบที่สอง โดยหวังว่าคงจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ เพื่อให้ได้ผลผลิตตามทีตั้งใจไว้ เพราะขณะนี้ครอบครัวลงทุนทำไร่มันปะหลังปีนี้ทั้งหมด 20 ไร่ โดยมีต้นทุนแยกเป็น ค่าเช่าที่ดิน 20,000 บาท ค่าไถ 8,000 บาท ซึ่งยังคงมี ค่าพันธุ์มันสำปะหลัง  ค่าปุ๋ย ค่าจ้างคนปลูกอีก รวมแล้วหลายหมื่นบาท ซึ่งยังคงต้องอาศัยน้ำจากธรรมชาติเพื่อให้ได้ผลผลิตดีในปีนี้